รีวิวตามใจ-ฉบับเขียนไปเรื่อยๆกับ…Tag / 2015 (อวสานโมเอะ) //มีสปอลย์ในช่วงท้าย//   Share

#not97


รีวิวตามใจ-ฉบับเขียนไปเรื่อยๆกับ…Tag / 2015 (อวสานโมเอะ) //มีสปอลย์ในช่วงท้าย//


ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนเลยว่าผมเห็นตัว Trailer ของ Tag / 2015 (อวสานโมเอะ) ครั้งแรกในช่วงพักเบรกจากการรับชมรายการทีวีของช่องรายการหนึ่ง  หลังดูจบผมยังไม่ค่อยสนใจในเนื้อหนังเพียงผิวเผินที่มันถูกปล่อยโฆษณาออกมาสักเท่าใดนัก จนกระทั่งวันหนึ่งเหลือบไปเห็นรายชื่อผู้กำกับเข้า ซึ่งแน่นอนว่าชื่อของเขาก็คือ “ชิอน โชโนะ” (Sion Sono) ชายผู้มีแรงดึงดูดอันแสนแปลกแยก-แปลกประหลาดนั่นเอง….

ใช่ครับ….หมอนี่คือผู้กำกับมือทองผู้รังสรรค์สร้างให้ Suicide Club / 2001 กลายเป็นหนังแนวฆ่าตัวตายหมู่อันแสนโด่งดังและสนุกสนานชวนลุ่มหลง อีกทั้งเขาก็ยังกำกับ-สร้าง Noriko's Dinner Table / 2005 (โต๊ะกินข้าวของโนริโกะ) ให้ตราตรึงอยู่ภายในดวงจิตของใครหลายคนตราบนานเท่านานมาแล้ว ด้วยรูปแบบการกำกับหนังแนวแหวกม่านประเพณีแบบสุดกู่ เราจึงยังคงเห็น “รูปสัญลักษณ์” หลากหลายที่ชิอน โชโนะ นำมาให้คนดูได้ขบคิดและช่วยกัน “จิก-กัด” สังคมคนดี-มีศีลธรรม-ผู้ดีจอมปลอมอยู่ไม่เว้นในแต่ละช่วงฉาก (เหมือนที่ครั้งนั้นเขาได้ตีแผ่-สร้าง “ครอบครัวเสมือน” ให้กับ Noriko's Dinner Table / 2005 จนบังเกิดขึ้นอย่างสุดขนหัวลุกมาแล้ว…)

เรื่องราวใน…Tag / 2015 (อวสานโมเอะ)  //ในวันที่โมเอะต้องตาย!//

หนังเล่าเรื่องของโลกใบนี้ในวันที่ปราศจากผู้ชาย โลกใบนี้จึงมีแต่ผู้หญิง ผู้หญิง และผู้หญิง!
และแน่นอน..หนังกำหนดให้เด็กสาวเพียงบางส่วนเป็นดั่ง “ขยะ” ที่จะต้องถูกกำจัด!
Tag / 2015 (อวสานโมเอะ) เล่าเรื่องของหญิงสาว 3 นางอันมีความเกี่ยวพันธ์กันอย่างใกล้ชิดเป็นตัวผูกเรื่อง-เชื่อมโยง-และนำพาไปสู่ “จุดบรรจบอันสะพรึง”

* เรื่องแรก…เรื่องราวของสาวน้อยมิตซึโกะ นักเรียนมัธยมปลายผู้ถูกสายลมมรณะ(คาไมทาจิ) จู่โจมขณะเจ้าหล่อนออกไปทัศนศึกษานอกโรงเรียนพร้อมเพื่อนๆอีก 2 คันรถบัส

* เรื่องที่สอง…เรื่องราวของสาววัย 25 อย่างเคโกะ สาวผู้ถูกบังคับให้สวมชุดเจ้าสาว-แต่งงานกับเจ้าบ่าวปริศนาที่ปิดบังอำพรางกายร่างภายในโลงศพลึกลับ ณ โบสถ์แห่งหนึ่งอันรายล้อมภายในด้วยเครือญาติและผู้มาร่วมในพิธีมงคลสมรสอันแสนแปลกแยก

* เรื่องสุดท้าย…เป็นเรื่องราวของอิซึมิ สาวนักวิ่งผู้พร้อมที่จะวิ่งเพื่อเปลี่ยนแปลงอนาคตและทุกสิ่งทุกอย่าง แม้จะมีกลุ่มนักวิ่งอันบ้าคลั่งไร้นามคอยก่อกวนอยู่ข้างหลัง

โดยทั้ง 3 ตัวละครหลักของเรื่องอย่าง..มิตซึโกะ, เคโกะ, และอิซึมิ จะต้องพยายาม “ผ่าน” และ “เอาชนะ” ในสิ่งที่พวกเธอจะต้องพบเจอ-เรื่องราวอันแสนแปลกแยก-แสนสับสนเหล่านั้นให้จงได้ ซึ่งทั้งสามหวังเอาไว้ว่าจุดจบในปลายทางสุดท้ายจะเฉลยที่มาที่ไป “ตัวตนอันแท้จริงของพวกเธอให้หมดสิ้น” ว่าแต่…หนึ่งใน 3 สาวจะมีใครบ้างหน๋อที่ฟันฝ่าอุปสรรค ผ่านด่านทดสอบสุดอันตราย  หลุดกรอบข้ามไปสู่ประตูแห่งทางออก… “ประตูแห่งโลกของความเป็นจริง” อันน่าหวาดหวั่งได้!

ฉากโหดร้าย-เลือดกระจาย-อวัยวะกระจุยใน Tag / 2015 (อวสานโมเอะ) : ตอนแรกที่เห็นบางประเทศให้เรตหนังเรื่องนี้แค่ 15+ จิ๊บๆ ผมนี่แอบยิ้มเลย ฉากโหดมันค่อนข้างเยอะอยู่นะ (แม้จะไม่ค่อยสมจริงในทางปฏิบัติก็เหอะ) เรื่องนี้ในใจผมนะยังไงก็ต้อง 18+ อัพแน่นอน! (เด็กต่ำกว่า 18+ ไม่ควรหามาดูนะครับ) ฉากโหดอันแสนตราตรึงในหนังเรื่องนี้ก็ อาทิ….

- ฉากเปิดเรื่อง ตอนที่นางเอกของเรื่องอย่างมิตซึโกะถูกสายลมมรณะ(คาไมทาจิ) จู่โจมขณะเจ้าหล่อนออกไปทัศนศึกษานอกโรงเรียนพร้อมเพื่อนๆอีก 2 คันรถบัส ฉากนี้คนดูจะได้เห็นการฆ่าล้างโคตรของสายลมมรณะคาไมทาจิอย่างสุดหฤโหด ภาพคุณครู-พนักงานขับรถ-และนักเรียนโรงเรียนหญิงล้วนทั้งสองคันรถบัสถูกตัดศีรษะ เลือดกระจาย อวัยวะกระจุยพวยพุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง  เฮ๊ยยย…นี่มันหนังนรกแตกคิขุอาโนเนะชัดๆ!

- ฉากคุณครูสาว(ทั้งโรงเรียน)ช่วยกันสังหารโหดลูกศิษย์ตัวเองภายในโรงเรียน(สังหารโหดทั้งโรงเรียน) คนดูจะได้เสพภาพความบ้าคลั่งของบรรดาครูสาวๆในวันที่เจ้าหล่อนสติแตกแบบกู่ไม่กลับ  หยิบจับปืนกลหนัก, ปืนกลมือ,  M16, เครื่องยิงลูกจรวดอาร์พีจี…ออกไล่ล่านักเรียนอย่างวิปลาส!

- ฉากนองเลือด ฆ่าล้างโคตรภายในโบสถ์-พิธีแต่งงานของสาวเคโกะ และฉากพี่เลี้ยวเจ้าสาว(นักบู๊)ที่ช่วยกันฆ่าโหดสาวๆผู้ติดตามภายในห้องแต่งตัวของเจ้าสาว(เคโกะ)ฉากนี้ฆ่ากันจนเละ-นองเลือดภายในห้องแบบชวนหวาดเสียวมากมาย เพื่อนเจ้าสาวบางคนโดนเหยียบจนหัวเละเป็นแตงโมโดนรถสิบล้อทับก็มิปาน…

- และฉากชวนวิปลาสสติหลุดอีกหลายฉาก ฯลฯ

************* ตรงนี้มีสปอลย์ *************

ก็เพราะโลกใบนี้มีสตรีเป็นใหญ่  แต่…ผู้กดปุ่มควบคุมคือบุรุษ!

หลายคนดูหนังเรื่องนี้จบแล้วอาจจะยังเกิดอาการ งง อยู่มิใช่น้อยว่าสรุปแล้ว Tag / 2015 (อวสานโมเอะ) มันคือเรื่องราวของอะไรกันแน่, หญิงสาวทั้ง 3 นางเธอคือใคร, ทำไมถึงเชื่อมโยงกัน, มันคือความฝันใช่ไหม, หรือคือการวนลูป, คืออะไรกันแน่ ( ? ) ฉากจบคือยังไง ( ? )

* ผมขออธิบายเป็นข้อๆตามความเข้าใจของผมก็แล้วกันนะครับ(ถูกผิดอย่างไรก็ว่ากันไป)

( 1 ) เพราะเป็นโลกของผู้หญิงเป็นใหญ่  แต่…ผู้กดปุ่มควบคุมคือบุรุษ!  ใน Tag / 2015 (อวสานโมเอะ)  สังเกตไหมครับมีแต่ตัวละครสาวๆทั้งนั้น ประเภทแก่ๆไม่ค่อยเห็นกันเลย เพราะว่า Tag / 2015 (อวสานโมเอะ) มันคือหนังแนวเกมซ้อนหนังครับ ผู้กำกับชิอน โชโนะ แกค่อนแคะ และกัดสภาพความเป็นจริงของ “โลกใบนี้” ไว้อย่างฝังเขี้ยว ว่าไอ้สิทธิ์สตรีที่พยายามเรียกร้องกันน่ะ สุดท้ายแล้วเคยมีสักครั้งไหมที่ได้มาจริงๆแล้วยั่งยืน  เพราะ“ผู้หญิง”ในโลกของ“ผู้ชาย” ส่วนใหญ่ถูกมองเป็นเพียงเพศรองเท่านั้น ถึงผู้หญิงจะมีสิทธิ์มีเสียงเพิ่มมากขึ้นกว่าในอดีตแต่มันก็ยังไม่เทียบเท่าสิทธิ์ของผู้ชายในหลายๆประเทศที่ “บุรุษ” ยังถือว่าเป็นช้างเท้าหน้าของจริง ถึงผู้หญิงจะมี “โลก” ที่ยิ่งใหญ่และเพิ่มปริมาณขึ้นในทุกๆปี แต่…ผู้กดปุ่มควบคุมคือบุรุษ! (นะครับ / แหมมมม…ป๋าเข้าใจกัดนะ!)

( 2 ) เพราะผู้หญิงเป็นเพียงเครื่องกามสนองตัณหาทางเพศของบุรุษเท่านั้นรึ ( ? ) อันนี้เห็นในหลายๆฉาก เช่น ฉากที่สาวๆในชุดนักเรียนส่วนใหญ่จะใส่กระโปรงกันสั้นมากๆ และผู้กำกับก็เน้นถ่ายภาพให้เห็นขาอ่อนขาวๆ+กางเกงชั้นใน(หลายๆฉาก), หรือฉากจระเข้พุ่งขึ้นมาจากน้ำก็เลือกที่จะกัดจุ๋มจิ๋มของเพื่อนนางเอกจนเลือดกระจาย, และฉากจบที่ตัวละครชาย(ผู้เล่นเกม)ถอดเสื้อผ้าออก นอนบนเตียง เรียกสาวมิตซึโกะให้มาบำบัดความใคร่(พร้อมบอกไว้ว่า..นี่คือความฝันที่รอคอยมานานแสนนาน และผู้ชายที่เล่นเกมทุกคน “ต้องการมัน” / อันนี้แสดงถึงตัณหาอันเปิดเผยเพราะได้รับการยอมรับจากเสียงของ “ผู้กดปุ่มควบคุมส่วนใหญ่” ว่าดีงามตามศีลธรรมของคนหมู่มากในอนาคต ( ? ) (ว่าแต่ชิอน โชโนะ มีแนวคิดแบบนี้แล้วจึงใส่ลงไปในตัวหนังจริงรึเปล่าเนี่ย? / หรือผมคิด-ตีความไปเองคนเดียวกันแน่  555+)

( 3 ) จริยธรรมทางการแพทย์และนักกฎหมายอันดำดิ่งจมหาย (ในจินตนาการของผู้กำกับ) ใน Tag / 2015 (อวสานโมเอะ) มีการเล่นกันในประเด็นเรื่องของการเก็บ DNA มนุษย์ไว้สำหรับการโครนฯ-โคลนนิ่ง (Cloning) มนุษย์ในยุคต่อๆไป เพื่อดึงเอาความสาว-ความสวย-ความน่ารักเหล่านั้นให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง สาวๆเหล่านี้เองอย่างมิตซึโกะ, เคโกะ, และอิซึมิ(รวมถึงอีกหลายๆคนที่มิได้ปรากฏในหนัง) จะถูกฟื้นชีวิตด้วยการโคลนฯ DNA ขึ้นมาใหม่ เอาพวกเธอมาสร้างเป็นเกมเสมือนจริงให้บรรดาหนุ่มๆผู้บ้าคลั่งในโลกใบนี้ได้สนุกสนานกันแบบสุดเหวี่ยง!  พวกเธอทั้งหลายจะได้เกิด-สู้-และตายกันนับครั้งมิรู้จบเพราะแม้ร่างกายของเจ้าหล่อนทั้งหลายจะตายจากไป แต่คลื่นสมอง(ที่มีการทดลอง-วิจัยจนประสบผลสำเร็จ)นั้นสามารถเคลื่อนย้ายจากร่างโคลนฯหนึ่งไปสู่อีกร่างโคลนฯหนึ่งได้อย่างไม่มีวันจบสิ้น  ซึ่งในเรื่องนี้เพื่อนสาวของมิตซึโกะได้เอ่ยอมตะวาจาไว้ประกอบว่า “เด็กผู้หญิงทุกคนล้วนตายแล้วเกิดใหม่ และใช้ชีวิตที่สอง…” 

แน่ล่ะ…งานนี้เหล่าชายหนุ่มจะสนุกสนานกับการกดปุ่มเล่นเกมโดยมีสาวๆเป็นเพียงเครื่องเล่นที่คอยสนองความบันเทิงเริงใจ-สนองตัณหาเพียงชั่วขณะ…แม้แต่เรื่องบนเตียง!(ฉากจบ)

อนึ่ง หากมอง Tag ที่ว่าด้วยเรื่องการที่ผู้กำกับมองระบบ-วงการสาธารณสุข-การแพทย์ในหลายๆประเทศในปัจจุบัน เขาอาจมองว่ามันกำลังดำดิ่งลงเพราะคนเป็นแพทย์ที่เรียนจบมา (จำนวนหนึ่ง) แหวกจารีตเพื่อช่วยเพื่อนมนุษย์ ใช้วิชาชีพทำเงินกับเรื่องผิดศีลธรรม เพียงคุณมีเงิน..คุณก็สามารถที่จะนำ DNA ของใครก็ตามที่ตายไปแล้ว ทำให้มันฟื้นกลับมีชีวิตขึ้นมาใหม่ เอามาเป็นเครื่องเล่นสนองตัณหาใครอีกหลายคนได้ โดยมีแพทย์บูชาเงินและนักกฎหมายชั่วที่พร้อมหาช่องทางของกฎบ้านเมือง ทำเงินให้กลุ่มคนรวย-นายทุน-และกลุ่มทุนนิยมสามานย์ได้อย่างเต็มใจ…ถ้าคุณมีเพาเวอร์และเงินตรา! ( ? ) //อันนี้อาจเป็นประเด็นชวนขบคิดและจิกกัดจากในหนัง//

เเละ ( 4 ) ภาพลักษณ์ของคุณครู-ศาสนา-เเละฯลฯ ในวิถีเเห่งความเปลี่ยนเเปลง-เสื่อมศรัทธา  อันนี้ผู้กำกับเลือกเอาคุณครู(ที่มีหน้าที่สอนหนังสือ)มาเล่นบทไล่ฆ่าเด็กซะเองด้วยอาวุธหนัก...ผู้กำกับอาจจะจิก-กัดเรื่องราวอันสะท้อนปัญหาในสังคมยุคปัจจุบัน  ยุคที่เกิดวิกฤติศรัทธาในบทบาทของพ่อพิมพ์เเม่พิมพ์ในหลายประเทศ เเละความเสื่อมศรัทธาในศาสนา รวมถึง ฯลฯ

**** ฉากจบ….หลังจากที่นางเอกของเรื่อง(สาวน้อยมิตซึโกะ)ถูกยิงคำถามมาว่าจะตอบสนองตัณหาที่ “คนกดปุ่ม” รอคอยมานานแสนนานได้หรือไม่ ( ? ) สุดท้ายเธอก็ต้องการที่จะจบเกม….มิตซึโกะเลือกที่จะฆ่าตัวตาย(Shutdown ตัวเองลง) แล้วภาพทุกภาพก็กลายเป็นสีขาวบริสุทธิ์ในเนินหิมะ(การดับสูญชั่วกาล) แน่นอนหนังเลือกที่จะให้คนดูคิดและจินตนาการภาพตอนจบเอาเอง…. (แนวถนัดของเค๊าล่ะ ชายที่ชื่อชิอน โชโนะ-Sion Sono)

**** ปล. ว่าแต่หลังจากที่คุณดูหนังเรื่องนี้จบแล้ว  คิดว่าฉากจบมันเป็นยังไงกันแน่ล่ะ…เล่าให้ผมฟังบ้างสิ!




















ความคิดเห็นที่ 1

ฉากจบ เหมือนกับว่านางเอกมันฆ่าตัวตายเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเกิดใหม่กี่รอบ นางก็จะไม่ยอมถูกเล่นอีก สุดท้ายก็ไม่มีใครอยากเล่นเกม นางเอกก็เลยถูกปล่อยให้เป็นอิสระ

ฉากหิมะสีขาวโพลนหมายถึงว่าสภาพเเวดล้อมที่เกมสร้างขึ้นมันหายไปหมดแล้ว หรือแต่ความว่างเปล่า และบนหิมะมันจะมีรอยเท้าอยู่ แต่นางเอกเลือกที่จะวิ่งไปทางตรงข้ามกับรอยเท้าเดิม หมายความว่านางไม่ถูกคววบคุมให้เดินตามสคริปเกมส์อีกต่อไปแล้ว

อีกอย่างหนึ่ง คิดว่าเพลงประกอบของวง mono เรื่องนี้เพราะมาก ได้อารมณ์ดีจริงๆ สร้างบรรยากาศเรื่องให้มันซึ้งๆ เศร้าๆ ยังไงก็ไม่รู้

ความคิดเห็นที่ 2

คนไทยส่วนใหญ่ที่ได้ดูหนังเรื่อง TAG จะดูไม่เข้าใจ งง ดูไม่รู้เรื่อง

เพราะว่าความจริงแล้วหนังเรื่อง TAG มันคือภาคที่ 7 ของหนังชุด "Real Onigokko" ซึ่งสร้างกันมา 7 ภาคแล้ว

หนังชุด Real Onigokko ทุกภาคจะมีเนื้อหาคล้ายๆกันหมด เดินเรื่องแบบเดียวกันหมด แค่เปลี่ยน "กติกาของเกม" ไปเรื่อยๆ ซึ่งภาค 1 2 3 4 5 6 อธิบายทุกอย่างได้ชัดเจนกว่าภาค TAG (ภาค7) มาก และนำเสนอ "รูปแบบของเกม" ได้ชัดเจนกว่า

ดังนั้น ผู้กำกับในภาค TAG (ภาค7) จึงเล่าเรื่องแบบ "ไม่อธิบายมาก" และ "สื่อภาพแบบนามธรรมเยอะ" เพราะผู้กำกับคิดว่า คนดูส่วนใหญ่ (คนญี่ปุ่น) คงรู้เรื่องราวและรูปแบบของหนังชุด Real Onigokko กันดีอยู่แล้ว (แต่คนไทยไม่รู้เฟ้ย)

ถ้าใครได้ดู Real Onigokko ภาคก่อนๆ จะรู้สึกได้เลยว่า คนเขียนนิยายได้แรงบันดาลใจจาก Matrix แต่เป็น Matrix ในแบบของเกม ซึ่งผู้คนที่อยู่ Matrix มีหน้าที่ในการเป็นตัวละครในเกม
แล้ววันดีคืนดี ก็จะมีคนเล่นเกมถูกส่งเข้ามาใน Matrix เพื่อ "แข่งขันเก็บแต้ม" โดยการฆ่าคนใน Matrix ตามเงื่อนไขกติกาของเกมแต่ละภาค (ซึ่งภาคก่อนๆ นำเสนอภาพออกมาคล้ายๆพวกแก๊งเอเจนท์สมิธ ดีๆนี่เอง)

สรุปคือ ภาค TAG (ภาค7) เป็นภาพที่นำเสนอทุกอย่างแบบ "อาร์ตๆ ติสต์ๆ นามธรรม" ที่สุดในบรรดาทุกภาคแล้ว แถมไม่ได้นำเสนรูปแบบ "เกม" อย่างชัดเจนเหมือนภาคก่อนๆ คนดู (ที่ไม่ใช่คนญี่ปุ่น) ก็เลยยิ่งงงไปกันใหญ่

ความคิดเห็นที่ 3

ขอบคุณครับ ^________^

ความคิดเห็นที่ 4

เข้าใจหลายๆอย่างเยอะเลยค่ะ ^_^

ความคิดเห็นที่ 5

ขอบคุณ demonbug1 ครับ
ต้องไปหาดูแล้วล่ะ ๕๕๕๕๕๕๕๕๕


Function Used time : 0:0:0:0