มินิรีวิวหนังสยองขวัญหาชมยากจากสุดขอบโลก : Imago Mortis / 2009 (ภาพถ่ายวิปลาส)

เมื่อตาสองตาจ้องจดสบมองกัน....เธอจะเห็นความเศร้าโศกของฉัน
เพราะความตายของเธอ...คือสวรรค์สุดท้ายของใครคนนั้น
และเมื่อเรตินาถูกแบ่งปัน..สวรรค์อยู่ในกำมือ!!

ตอนที่ได้ยินชื่อหนังเรื่องนี้ครั้งแรกจากคุณเพื่อน หลังจากอ่านเรื่องย่อภาคภาษาอังกฤษ+รับชมโปสเตอร์โปรโมทหนัง  ผู้เขียนยังไม่ค่อยรู้สึกสนใจใยดีกับมันสักเท่าไหร่ จวบจนวันหนึ่งถูกคุณเพื่อนรบเร้าขอให้ช่วยหาต้นฉบับ-ตัวดูออนไลน์ให้ เลยเริ่มรับรู้ว่ามันหาลิ้งดูตัว Full ยากมากๆ  แน่นอน..แสดงว่าหนังเรื่องนี้แรงเข้าขั้นในระดับนึงเลย(คิดว่า…) หลังจากเอาหนังเรื่องนี้มาพูดคุยกันตามปกติในเพจฯ ปรากฏว่ามีผู้คนแห่กันเข้ามาชนิดมืดฟ้ามัวดินแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับแต่สร้างเพจฯมา ยอดคนเข้ามาดู-มาอ่านนี่เกือบครึ่งล้านคน(456,945 คน) จำนวนคนกดไลค์กว่า 2,436 คน ยอดคนกดแชร์ 2,143 ครั้ง และยอดการคอมเม้นท์กว่า 434 คอมเม้นท์…มันเกิดอะไรขึ้น #หนังเรื่องนี้มีอะไรดึงดูดใจคนดูยังงั้นน่ะรึ ( ???? ) เลยลงทุนนั่งดูมันจนจบ และพบว่า….

เรื่องนี้เป็นหนังสยองขวัญที่ร่วมทุนกันสร้างสามประเทศคือ Italy | Spain | Ireland (ต้นฉบับที่ผู้เขียนได้มาเป็นพากย์อิตาเลี่ยน-ฝังซับอังกฤษ) โดยผู้กำกับ Stefano Bessoni ใน Imago Mortis / 2009 (ภาพถ่ายวิปลาส) เล่าถึงเรื่องราวในยุคปี ค.ศ. 1600 เมื่อนักวิทยาศาสตร์ผู้หมกมุ่นอยู่กับศาสตร์ทางด้านมืดชื่อ Girolamo Fumagalli สามารถประดิษฐ์อุปกรณ์ในการถ่ายภาพ “สวรรค์” (Thanatography) ที่สวยงามที่สุดในโลกใบนี้ขึ้นมาได้โดยสำเร็จ แน่นอน..ว่าหลังจากนั้นเขาเริ่มใช้ ทดลองมันอยู่หลายปีกับเหยื่อที่หมายตาไว้แล้ว ด้วยการล่อหลอกเป็นสินจ้าง เงินตราจำนวนมหาศาล แล้วใช้อุบายวางยาในผลไม้ให้คนเหล่านั้นสิ้นสติลง มันคือการทดลองที่เขาจะทำการลบลูกนัยน์ตาของเหยื่อทิ้งแล้วดึงภาพสุดท้ายจากเรตินาออกมา….

หลายปีต่อมา ณ มหาวิทยาลัยทางด้านสาขาภาพยนตร์และการถ่ายภาพแห่งหนึ่ง ในเมืองตูริน ประเทศอิตาลี นักศึกษาด้านภาพยนตร์และการถ่ายภาพอย่างพ่อหนุ่ม Bruno (นำแสดงโดย Alberto Amarilla) กำลังศึกษาเล่าเรียนทางด้านนี้อย่างจริงจัง และไปสะดุดตาเข้ากับเทคนิคการถ่ายภาพ “ความตายอันแสนทรมาน” เข้าอย่างรักหมดหัวใจ เพียงไม่นานที่เขาเริ่มศึกษาเทคนิคตัวนี้อย่างจริงจัง เขากลับลุ่มหลงมันแบบสุดขีด จนต้องพยายามสืบเสาะ หาตำราทางด้านนี้โดยเฉพาะมาอ่าน มาวาด มาทำความเข้าใจอย่างดิ่งลึก

ไม่นานนักพ่อหนุ่ม Bruno (ตัวเอกของเรื่อง) ก็ได้ไปพบเข้ากับเทคนิคการถ่ายภาพ “สวรรค์” โดยมี Girolamo Fumagalli ชายผู้แสนอันตรายเป็นต้นแบบอย่างบังเอิญ ยิ่งนานวัน ยิ่งเขาศึกษาตำราและม้วนฟิล์มต้องห้ามบางตัวก็ดูเหมือนเขายิ่งถูกดึงลึกลงไปในห้องหับแห่งรัตติกาลในอเวจีเข้าไปทุกที หนำซ้ำยังเจอปรากฏการณ์ทางวิญญาณของคนที่ถูก Girolamo Fumagalli ฆ่าทิ้งเพื่อทดลองเทคนิค Thanatography ตามมาหลอกหลอนทุกคืนทุกวันอย่างบ้าคลั่งชวนเสียสติ จนในที่สุด Bruno ตัดสินใจสืบเรื่องราวของคนตาย และเรื่องราวของ Girolamo Fumagalli โดยมีเบาะแสบางอย่างว่าอาจารย์ในมหาวิทยาลัยภาพยนตร์และการถ่ายภาพที่เขาร่ำเรียนอยู่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีฆาตกรรมหลายครั้งที่ผ่านมา…

คนดูจะได้ร่วมลุ้นกับตัวเอกของเรา(พ่อหนุ่ม Bruno) ว่าจะสามารถสางเงื่อนงำที่พันปมไว้ทั้งหมดได้หรือไม่ ใครคือกลุ่มคนที่กำลังสร้าง-ทดลอง เทคนิค Thanatography เลียนแบบ Girolamo Fumagalli, ฆาตกรปริศนาที่พยายามฆ่าเลียนแบบมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่, ดวงวิญญาณตามติดตัวเอกของเรื่องเป็นเพียงภาพหลอนหรือคือเรื่องจริง..และเขาจะหลุดพ้นมันได้อย่างไร, รวมถึงหัวใจของการถ่ายภาพ “สวรรค์” (Thanatography) มันมีตัวตนอยู่จริงๆหรือไม่…

ฉากโหด-ฉากจิตในหนังเรื่องนี้ : เรื่องนี้ฉากโหดๆ ฉากทรมานเหยื่อมีไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่นะ(ที่เห็นๆก็แค่ฉากใช้ตะปูตอกลงไปที่แขนของเหยื่อ, ฉากจับแกะหรือกวางมาทำการถลกหนังทั้งเป็นตามด้วยการตอกตะปูตรึง-อันนี้สัตว์ปลอมครับไม่ต้องตกใจ ผู้กำกับแกล้งทำไม่เนียนไว้คนดูจะได้ไม่ตกใจมากเกินเหตุ+เข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์, และฉากใช้อุปกรณ์ดึงลูกตาของเหยื่ออกมา) แต่ฉากจิตๆเนี่ยผู้เขียนชอบเป็นการส่วนตัวตรงฉากเทคนิคการถ่ายภาพ “สวรรค์” (Thanatography) ที่ซึ่งผู้กำกับ Stefano Bessoni ทำออกมาได้มีระดับและมีชั้นเชิงดี  คือไม่โหดแต่มันจิตๆ(ในกรอบแนวคิดที่วางไว้) 

อนึ่ง หนังเรื่องนี้มีภาพการถ่ายทำฉาก, มุมมอง, สถานที่, แสง, และเงาที่สวยงามจับใจมากๆ ภาพนิ่งเพียงบางภาพอาจสร้างความหลอนได้อีกอักโข(แม้มันเป็นเพียงภาพนิ่ง)

สรุป…ถ้าจะดูความโหดของหนังเรื่องนี้ คนดูคงไม่สุขสมอารมณ์หมายเสียเท่าไหร่ แต่ถ้าอยากดูแนวคิด กระบวนทรรศน์ ความจิตแบบฝังรากลึกของมนุษย์ที่กำลังถวิลหาความมืดแบบดิ่งลึก แนะนำ…ควรหาหนังสยองขวัญ ที่มีภาพบรรยากาศแปลกๆเรื่องนี้มารับชมให้ได้สักครั้งในชีวิต!