A Nightmare on Elm Street
เข้าฉาย 30 เมษายน

คงไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรสำหรับหนังสยองตัวพ่อเรื่องนี้
ที่เป็นผลงานชิ้นสำคัญ จารึกไว้ในโลกหนังสยองกระแสหลัก เชื่อว่าขาโหดอย่างพวกเราคงรู้จักกันเป็นอย่างดีแล้ว
A Nightmare on Elm Street ฉบับรีเมค ได้ Samuel Bayer ผกก.มิวสิค วิดีโอ ชื่อดังที่เคยร่วมงานกับNirvada และมาริลีน แมนสัน มาแล้ว
ถึงจะเป็นผลงานกำกับหนังครั้งแรก แต่ก็จงอย่าห่วงไป เพราะพี่เบย์ของเราอยู่ภายใต้การคุมบังเหียนของป๋าเบย์ใหญ่ Michale Bay นั้นเอง
ฉะนั้นเชื่อขนมกินได้เลยว่าต่อให้หนังไม่เก๋ายังไง มันก็ควรจะดูสนุก ฮอลลีวู้ดจ๋าๆสุดๆอยู่ดีนั้นแหละ
ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะ ป๋าเบย์ เคยชุบชีพให้หนังสยองเก่าๆหลายเรื่องให้กลับคืนมาอีกครั้งทั้ง สิงหาสับ รีเมก / ศุกร์ 13 รีเมก

ทั้ง 2 เบย์ กล่าวว่า "เฟรดดี้ ครูเกอร์ ภาคนี้ จะมีความสมจริงมากกว่าที่แล้วมา มีความเครียดมากขึ้น เราจะได้เห็นอารมณ์อันหลากหลายของวายร้ายในความฝันตัวนี้ มันออกมาซีเรียส สยอง ไม่ตลกเปาะแปะแบบภาคต้นฉบับ ตอนก่อนๆเด็ดขาด"

ฟังแบบนี้ หลายคนที่ยึดติดกับต้นฉบับอาจจะไม่ค่อยชอบ แต่ทั้งสองก็บอกว่า "ในส่วนของฉากการตายตัวละครนั้น ก็ยังจะยึดแบบเก่าไว้ดีแหละครับพี่น้อง"

ในส่วนของวายร้ายฟ้อนเล็บ ได้ Jackie Earle Haley นักแสดงหน้าจิต ที่มีผลงานเด่น Watchmen ในบท Rorschach (แต่คนคงจำหน้าไม่ได้ เพราะพี่แกอยู่แต่ในหมวกโม่งทั้งเรื่อง)

โรเบิร์ต อิงแลนด์ ผู้ที่สวมบทเฟรดดี้มาตลอดซีรี่ย์ชุดนี้ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตัวเค้าเองก็รุ้สึกพอใจกับ แจ๊กกี๊ ถึงแม้ว่าตอนแรกเค้าจะคิดว่าแจ๊กกี้ตัวเล็กไปสำหรับบทนี้ แต่ผมเชื่อว่าเค้าสามารถถ่ายทอดเฟรดดี้ในแบบของตัวเองได้แน่นอน

"ผมรู้สึกยินดีนะ ที่เราจะได้เห็นซีจีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการปลุกเร้าโลกแห่งความฝัน แบบที่เทคโนโลยียุคก่อนยังทำไม่ถึง" ลุงโรเบิร์ทกล่าว

ฟังดูแล้วก็มีแต่คนแฮปปี้ดี จะยกเว้นก็แต่ลุง Wes Craven ผกก.ต้นฉบับ ที่ออกอาการงอลว์ เมื่อไม่ได้รับการเทียบเชิญให้มาเป็นที่ปรึกษา หรือผู้อำนวยการสร้างอะไรเลยซักกะนิดเดียว

เอาน่าลุง เก็บแรงน้อยใจไปปลุกปั้น SCREAM 4 ดีกว่าโนะ

Mother's Day
เข้าฉาย 9 พ.ค.

อะไรบ้างที่เราสามารถทำดีเพื่อแม่
ทำความสะอาดบ้าน ปรุงอาหารอร่อยๆ พาแม่ไปซื้อของ ขับรถพาแม่ไปเที่ยว และที่สำคัญเป็นเด็กดีของคุณแม่
หลายคนเลือกที่จะทำสิ่งเหล่านี้เฉพาะวันที่ 12 สิงหา ทั้งที่ความจริง
การทำดีเพื่อแม่นั้น ทำวันไหนก็ได้ ทำให้ทุกๆวันเป็นวันแม่ของเรา
เช่นกันกับ Ike และ Addley สองพี่น้อง ที่เชื่อว่าเราสามารถทำให้แม่มีความสุขได้ทุกวัน และสำหรับแม่ของทั้งสองไม่มีอะไรที่จะทำให้เธอตื้นตันใจได้เท่ากับเห็นลูกทั้งสองออกข่มขืน และฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต
เป็นคราวซวยของเพื่อนสาวสามนาง ที่บังเอิญแวะมาพักร้อนกลางป่าใหญ่ ที่ตระกูลวิปริตนี้อาศัยอยู่ ทั้งสามกำลังจะถูกล่าไปชำเราสังเวยโดยลูกกตัญญูทั้งสองที่อยากเห็นแม่มีความสุขด้วยเลือดและพรหมจรรณ์ของเหยื่อ สาวๆ ต้องดิ้นรนหาทางหนีจากเงื้อมืออสูร ท่ามกลางเสื้อผ้าที่ขาดวิ่น หลังจากที่เพื่อนสาวคนนึงในกลุ่มถูกทารุณกรรมอย่างน่าเวทนา
เดชะบาปที่หนังไม่ได้สอนกฎแห่งกรรม พวกเธอจึงหาทางคิดโต้กลับ ให้รู้กันไปเลยว่า "วันแม่" ของพวกเมิง จะกลายเป็นการปลดแอกอิสรภาพของ "วันสตรีสากล" แบบพวกกรูเอง

ฟังแค่เรื่องก็รู้แล้วว่าเสื่อมมากแค่ไหน นี้เป็นหนังรีเมคจากต้นฉบับปี 1980 ที่ดูท่าจะได้อิทธิพลจากหนังสยองแนว revenge/exploitation (exploitation เป็นคำเรียกชื่อหนังจำพวกที่มีความโดดเด่นขั้นปะทุสุดขอบไปในด้านใดด้านนึงอย่างไม่บันยะบันยัง - - มีชื่อเรียกย่อยๆแตกออกไปมากมายตามแต่ลักษณะเด่นของมัน) ที่ออกฉายตามหลังหนังอย่าง The Last House on the Left, I Spit On Your Grave ที่มีองค์ประกอบเหมือนๆกันนั้นคือ การข่มขืน+ฉากที่เกิดในป่า+การล้างแค้นแบบบ้านๆ+คุณภาพการถ่ายทำแบบเกรดบี๊เกรดบี... ตัวหนังต้นฉบับถูกตีตราถึงความรุนแรงอย่างมาก และเมื่อเวลาผ่านไป หนังจึงเริ่มได้รับความรับความนิยมแบบคัลท์ๆ... ตัวหนังฉบับรีเมค สาแก่ใจข้านัก เพราะได้ Darren Lynn Bousman ผกก. หนังโหดอย่าง SAW II-III-IV
เฮ้! น้อง ขอลาบเลือดเพิ่มอีกชาม

โปสเตอร์+เทรลเลอร์หนังยังไม่ออก เราจึงขอชวน
ไปดูของต้นฉบับก่อนแล้วกันนะ

Survival of the Dead
เข้าฉาย 28 พ.ค. (จำกัดโรง)

กลับมาอีกครั้งกับหนังซอมบี้ สกุล ...of the dead ของปู่จอร์จ ที่ภาคนี้ไม่รู้ปู่จะหยิบประเด็นอะไรทางสังคมมาพูดถึงอีกรึเปล่า
Survival of the Dead แค่ชื่อก็เห็นภาพรายการ Survivor ลอยออกมาแล้ว เหตุการณ์ระทึกขวัญครั้งนี้เกิดขึ้นบนเกาะ Plum ที่เป็นแหล่งกบดานของผู้คนที่อพยพหนีตายฝูงซอมบี้มาพักอาศัย ทว่าซอมบี้นั้นหนีไปทางไหนก็เจออยู่ดี กลุ่มผู้อพยพจึงต้องดิ้นรนหาทางสู้และเอาตัวรอดบนเกาะมรณะนี้ รวมทั้งหาทางคืนชีพคนที่พวกเค้ารัก จากซอมบี้ให้กลับเป็นมนุษย์ด้วย

ตัวหนังจริงๆ ออกฉายตั้งแต่ปลาย 2009 ตามเทศกาลต่างๆ อย่าง เวนิซ / โตรอนโต / เวียนนา หนังได้รับคำวิจารณ์ไปในทางที่ดีเป็นส่วนใหญ่


sneak peak จ้า

Jonah Hex
เข้าฉาย 18 มิ.ย. / 17 มิ.ย. (ไทย)

อีกหนึ่งการ์ตูนคอมมิคที่ถูกร่ายคาธาคืนชีวาสู่โลกภาพยนตร์ Jonah Hex คาวบอยหน้าผี ฮีโร่ร่วมค่าย DC เจ้าของเดียวกับ Superman, Batman โดยฝีมือการกำกับของ Jimmy Hayward ที่หันมากำกับคนเป็นครั้งแรก หลังจากทำอนิเมชั่นมาช้านาน (ผลงานอย่าง Horton Hears a Who!) Jonah Hex คือชื่อคาวบอยที่มีใบหน้าซีกขวาเละสยอง เค้าเป็นชายผู้หันหลังให้กับโลก ชิงชังสังคมมนุษย์ แต่ทว่าด้วยเกียรติแห่งหน้าที่ Jonah จึงอยู่ผดุงความยุติธรรมให้แก่โลกอย่างเลี่ยงไม่ได้ และแน่นอนว่ามีฮีโร่ ก็ต้องมีตัวร้าย ศัตรูตัวฉกาจที่หวังจะสร้างความฉิบหายให้โลกครั้งนี้คือ Quentin หมอผีวูดู ที่คิดปลุกชัพซอมบี้ให้ลุกขึ้นมาจากหลุม เป็นกองกำลังทหารทำการแบ่งแยกดินแดนตอนใต้ของรัฐ
เชื่อได้ว่าใครอยากดูหนังคาวบอย แบบมืดๆมึนๆ เต็มไปด้วยฉากแอ๊คชั่น และความระทึกขวัญมันส์ๆ ต้องไม่พลาด
นำแสดงโดย Josh Brolin (เค้าคือ พระเอกเรื่อง No Country for Old Man, คุณหมอผู้ชอบซ้อมเมียใน Planet Terror) ร่วมด้วยนางจิ้งจอกสุดเซ็กซี่ Megan Fox ในบทนางขณิกานักแม่นปืนแห่งบาร์เบียร์
หญิงงามข้างกาย Jonah

Predators
เข้าฉาย 7 ก.ค.

กลับมาแล้ว ทั้งที่ไม่อยากให้กลับมา กับตัวประหลาดต่างดาว นามว่า พรีเดเทอร์ ซึ่งภาคนี้ก็เป็นภาคที่สามแล้ว
จึงได้ทำการเติม s เพื่อแสดงความเป็นพหูพจน์ (เหมือนเอเลี่ยน 2 เลยอ่ะ มุขนี้) โดยในภาคนี้ ซึ่งถือเป็นตอนที่ 3 (ไม่นับภาคพิเศษ ที่ไปปะทะเอเลี่ยน) ได้พ่อยอดขมองอิ่ม Robert Rodriguez มาอำนวยการสร้าง และเขียนบทให้ ส่วนตัวผกก. นั้น ได้ผกก.เชื้อสายอเมริกา-ฮังคาเรียน Nimród Antal ที่แจ้งเกิดจากหนังห้องเช่าสุดหลอน Vacancy
ในพรีเดเทอร์ซฺ มนุษย์ต้องเผชิญความวิบัติอีกครั้ง เมื่อเหล่าตัวประหลาดเห็นมนุษย์เป็นแค่ของเล่นใช้แล้วทิ้ง พวกมันลักพาตัวมนุษย์ไปกักขังในเขตล่าแต้ม ที่เป็นอาณาเขตขนาดใหญ่ ที่มีไว้เล่นเกมส์ล่ามนุษย์อย่างสนุกสนาน เดือดร้อนถึงเหล่ามนุษย์ดวงซวยที่ต้องรวมตัวกันสู้เพื่ออิสรภาพ ก่อนจะถูกเก็บไปทีละคน
นำแสดงโดย แอนเดรีย โบรดี้ พระเอกฝีมือตุ๊กตาทอง จาก The Pianist
แว่วมาว่าทางผู้สร้างกะจะทาบทามท่านผู้ว่าคนเหล็กมาร่วมแจมด้วย ในฐานะที่ท่านเคยแสดงหนังเรื่องนี้ในภาคแรกไว้

[REC] 2
จัดจำหน่าย: ก.ค.

อีกหนึ่งภาพยนตร์ภาคต่อที่หลายคนคงรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ หลังจากภาคแรกสร้างปรากฎการณ์ขวัญผวา ที่พากันบอกต่อกันปากต่อปาก จนเกิดกระแส REC FEVER อย่างท่วมท้น การสานต่อความสำเร็จทางการเงินจึงออกมาให้เราได้พบอีกครั้งในรูปแบบของภาคต่อ โดยผกก. คนเดิม
[REC] 2 ดำเนินเรื่องต่อจากภาคแรกในทันที หลังจากทางการสั่งให้ปิดตึก เพื่อกักเชื้อโรค แต่ทว่าผลสุดท้ายก็ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดที่ส่งตัวเข้าไปเอาตัวอย่างเลือดกลับออกมาได้เลยซักคน... ทาง GEO จึงได้ส่งทีมงานชุดใหม่ ร่วมด้วยหน่วยสวาท และพระรูปหนึ่งที่แฝงตัวเข้าไป เพื่อเก็บตัวอย่างเลือดของหญิงติดเชื้อในห้องใต้หลังคา
ในขณะที่กลุ่มแรกเข้าไปในอาคาร ก็ยังมีคนอีกกลุ่มนึงที่หลุดเข้าไปในนั้นเช่นกัน คือ พนักงานดับเพลิง รวมทั้งพ่อของเจนนิเฟอร์ (จำภาคแรกได้ไหม เด็กที่ติดเชื้อคนแรก ที่แม่เธอบอกว่า สามีเธออยู่ข้างนอก ไปซื้อยาให้ลูกนะ) และเด็กวัยรุ่นสามคนที่สาระแนจนได้เรื่อง ติดร่างแหเข้าไปด้วย
ทั้งสองกลุ่มต่างก็พยายามแกะรอบเพื่อหาเงื่อนงำถึงสาเหตุเรื่องสยองขวัญ ตามหาผู้รอดชีวิต เก็บตัวอย่างเลือด และหนีบางสิ่งที่ชวนขนลุกเกินกว่าจะเรียกว่าซอมบี้ หรือผีร้ายใดใดก็ตาม

ตัวหนังออกอาละวาดตามเทศกาลหนังตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ถึงแม้ว่านักวิจารณ์หลายคนจะเบ้ปากใส่กับเรื่องราวและการคลี่คลายในหนังที่เริ่มรั่วๆหลุดๆ แต่ฝั่งคนดูหนังที่รักความบันเทิงก็ยังปรบมือเป่าปากให้กับความสนุกสุดสยองของหนังภาคนี้อยู่ดี - - หนังสร้างความฉงนทิ้งปมให้กับผู้ชมได้ขบคิดว่า ตกลงสิ่งที่เห็นในฟุทเทจหนังคืออะไรระหว่าง ปีศาจ หรือผู้ติดเชื้อ ไสยศาสตร์เหนือธรรมชาติ กับปรากฎการณ์ความผิดพลาดทางชีวะ อะไรคือความจริงที่ถูกบันทึกไว้
ถึงแม้จะมีบางส่วนของหนังทีเ่อนเอียงไปทางไสยศาสตร์ (เมื่อตัวละครพระ นำวัตถุศักดิ์สิทธิ์ไปทดสอบกับเลือดหญิงในห้องใต้หลังคา แล้วเกิดปฏิกริยาขึ้นมา)

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เราเชื่อได้ว่าหนังจะยังคงสร้างคำถามชวนระทึก ที่จะทำให้อากัปกิริยา ปิดตา กอดเข่า แขนกระตุก เสมอเหมือนตอนดูภาคแรกกลับมาอย่างแน่นอน เพราะเค้าบอกว่าภาคนี้เฮี้ยนกว่าเดิม แถมมีเซอร์ไพร์สสำหรับคนดูภาคแรกด้วยนะ
จะเป็นอย่างไรคงต้องไปตัดสินด้วยตาคุณเอง ประมาณกลางปีนี้ ที่บิท ทอเรนท์ และเวบแชร์ไฟล์ทั่วราชอาณาจักร
อ้อ จากความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ทีมผู้สร้างตัดสินใจเซ้นสัญญาสร้างภาค 3 แล้วด้วยล่ะ

The Ward
เข้าฉาย 24 ก.ย.

การกลับมาของราชาหนังสยองขวัญที่ถูกหลงลืมไปจากสารบบโลก นับตั้งแต่กลางปี 90 - - John Carpenter ที่ปัจจุบันก็ยังคงรีแพกเกจฮาโลวีน / เดอะ ธิ๊งค์ ขายบุญเก่ากินอยู่ร่ำไป แต่โอ๊ย! ใครจะปล่อยให้ตัวเองหมดบุญบารมีเหลือริบหรี่เท่านี้
ว่าแล้วลุงแกก็ตัดสินทำหนังเรื่องใหม่ (หลังจากห่างหายไปนานนับตั้งแต่ "ผีบนดาวอังคาร" เมื่อ 9 ปีที่แล้ว)
The Ward คือหนังสยองเนื้อหาพื้นฐานสุดๆ ว่าด้วยเรื่องราว หญิงสาวหน้าตาดี ที่ถูกส่งตัวมาบำบัดจิตในสถานพยาบาลอันห่างไกลจากตัวเมือง เธอไม่รู้สาเหตุที่ถูกส่งมาที่นี้ รวมถึงไม่สามารถจดจำสิ่งที่เคยเกิดขึ้นทั้งหมดก่อนหน้านี้ได้ ทว่าตลอดเวลาที่เธออยู่ในที่แห่งนี้ เธอก็ถูกหลอกหลอนจากวิญญาณร้ายอำมหิตที่สุดแสนจะน่าสะพรึงกลัวสุดๆเน้นๆ

เนื้อเรื่องโดยรวมยังไม่มีอะไรแปลกใหม่ แต่ทางด้านอารมณ์กระตุกขวัญน่าจะมีให้พอหวีดกันได้ไปหลายแอ๊ะ - - เราขอเอาใจช่วยให้ลุงกลับมาทวงบัลลังค์ราชาหนังสยองให้ได้อย่างสมศักดิ์ศรีแล้วกันนะ

ลองดูบางส่วนของหนังกัน (เป็นฟุทเทจที่ออกอากาศที่ฝรั่งเศส - - ตัวเทรลเลอร์จริงๆยังไม่ออกจ้ะ)

เดี๋ยวดึกๆมาโพสต่อ (ช่วงนี้กลับมาว่างแหละ)

ดีจังดูหนังโหดรับวันวาเลนไทม์

เห็นเฟรดดี้คิดถึงปิงปิง 55+

น่าดูที่สุดคงเป็น Survival of the Dead กะ [REC]^2 ... รออ่านต่อครับ

ตัวประกอบ ปิงปิง ไม่ได้ไปไหน อยู่นี่แหละ แวบไปแวบมา

ลุงคาร์เพนเตอร์ทำผมเสียเส้นมากๆจาก The Fog เป้นการรีเมคหนังตัวเองที่บัดซบที่สุดในโลก

รอดู ...of the dead ชอบจริงๆ

อ้อรู้สึกมีหนังซอมบี้อินดี้อีกเรื่องนะ ที่เกิดซอมบี้ในแอฟริกาน่ะ น่าสนใจ

เจอเวบละ

http://thedead-movie.com/

คาร์เพนเทอร์ไม่ได้รีเมค the fog นะครับ

Hatchet 2
เข้าฉาย ต.ค.

สารภาพก่อนเลยว่าไม่เคยดู และรู้จักภาคแรกมาก่อน จนกระทั่งลงเขียนกระทู้นี้ถึงได้รู้จักตัวหนัง ภาคแรกนั้นถึงจะเป็นหนังทุนต่ำ จัดฉายอย่างจำกัดจำเขี่ย ตามประสาหนังสยองเกิดแต่ตม แต่ก็ได้รับคำชมท่วมท้น Pure Old School Horror Fun คือสิ่งที่นักวิจารณ์จำกัดความถึงสิ่งดีในหนังเชือดเลือดสาดชิ้นนี้ ที่ดีในแบบให้อารมณ์และบรรยากาศแบบหนังยุคก่อนๆ... บางสำนักถึงกับยกหนังขึ้นทำเนียบหนังดีแห่งปี 2006 เคียงข้าง Pan’s Labyrinth, Children of Men เลยทีเดียว.... อย่ากระนั้นเลย สร้างภาคต่อมาตอกย้ำความสำเร็จให้มันขจรไกลไปอีกดีกว่า
สำหรับภาคสองนั้น มีพล๊อตง่ายๆสามัญๆ ที่ใครที่ดูภาคแรกมาแล้วคงเข้าใจไม่ยาก ว่ามีตัวละครตัวนึงรอดพ้นจากฆาตกรโรคจิตในเรื่อง เธอจึงหาทางที่จะทวงแค้นให้เพื่อนๆและครอบครัวที่สังเวยชีวิตให้ไอ้โหดวิปริต อย่างสาสมชนิดเลือดต้องล้างด้วยเลือดเลยทีเดียว
ใครที่ชื่นชอบหนังโหดเชือดเลือดสาดแบบเพียวๆไม่ปรุงแต่งเนื้อเรื่องหักมุมเลี้ยวพล๊อต ดูแล้วไม่ต้องคิดอะไรมาก ลองหามาชมหน่อยก็ดีนะ
ป.ล. ผกก.คนเดียวกับเรื่อง frozen ในกระทู้ที่แล้ว

SAW VII
เข้าฉาย 22 ต.ค.

อะไรเอ่ย โผล่มาให้เสียวทุกปลายปี?
วางระเบิดอ่ะเหรอ ไม่ใช่หรอกจ้า คำตอบก็คือ หนังชุด saw นั้นไง...
และแล้ว เกมส์มรณะของลุงจิ๊กซอว ก็ดำเนินโครงการมาจนถึงภาคที่ 7 ที่ได้ปฏิรูปโครงสร้างเข้าสู่ระบบ 3D ตามสมัยนิยมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยในภาคนี้ได้ Kevin Greutert ผู้กำกับจากภาค 6 จะมารับสังคายนาหนังแทนที่ David Hackl ผู้กำกับจากภาค 5 ที่แต่แรกจะมารับช่วงกำกับหนังภาคนี้แทน
โดยเห็นผลที่ ไลอ้อนเกท (บริษัทผู้ผลิต) เปลี่ยนผกก. กะทันหันแบบนี้ มาจากการที่บริษัทต้องการเอาชนะยูนิเวอร์แซลที่เรียกใช้Kevinไปกำกับ Paranormal Activity 2 (มันกล้ามีภาคสองเหรอเนี้ย) ที่ถูกวางกำหนดการฉาย 22 ต.ค.
วันเดียวกับ SAW VII นั้นเอง... เพื่อป้องกันไม่ให้SAW VII ขาดทุนในการฉายชนหนังภาคต่อสุดฮิต บริษัท "ทวารสิงห์" จึงไม่รอช้าที่จะดึงตัว Kevin กลับมาทำงานให้ เนื่องด้วยสัญญาว่าจ้างของKevin กับบริษัทยังคงมีผลทางกฎหมายอยู่ (ลองคิดดูซิว่าถ้าเป็นคุณ คุณจะสามารถกำกับหนังสองเรื่องที่ต้องออกฉายพร้อมกัน ให้ออกมาดีได้ไหม) ไม่ต้องแปลกใจเลยว่างานนี้ฝั่ง "ทวารสิงห์" ได้เปรียบกว่า เพราะขั้นตอน พรี-โปรดักชั่นของ SAW VII ก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือแต่เพียงถ่ายทำเท่านั้น แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับ Paranormal Activity 2 ที่ยังไม่ได้เริ่มงานสร้าง ไหนผกก. ก็ยังต้องแบ่งภาค ปันเวลาไปกำกับหนังเรื่องอื่นอีก งานนี้สงสัยคงต้องมีการเลื่อนฉาย เพราะกำกับหนังไม่ทันแน่ๆ...
แหม! อ่านแค่นี้ก็รู้แล้วว่าตัวหนังมันเลือดเย็น เลือดสาดทั้งเบื้องหลัง และหน้าม่านจริงๆ
ส่วนเรื่องย่อของหนังตอนนี้ยังไม่เปิดเผยอะไรมาก แต่ก็เป็นที่รู้ๆอยู่ในหมู่สาวกว่า มันก็ยังดำเนินเรื่องต่อจากสิ่งที่สะสางไม่เสร็จในภาคที่แล้ว ที่ทิ้งปมให้คนดูลุ้นต่อตามวิสัยSAW นั้นแหละ
และจากภาวะขาดทุน รายได้หดให้ของ SAW VI จึงเป็นสัญญาณเตือนให้ผู้สร้างเริ่มรู้ตัวว่า หนังชุดนี้เริ่มจะไม่เป็นที่นิยมแล้ว ทำให้มีข่าวลือว่า SAW VII จะเป็นหนังภาคสุดท้ายของตระกูลนี้ และปริศนาทุกอย่างที่ค้างคา
จะได้รับการคลี่คลายอย่างกระจ่างแจ้ง
ซึ่งเราก็หวังว่ามันควรจะเป็นเช่นนั้นจริงๆเถอะนะ...
แต่ใครจะรู้ เค้าอุตส่าห์แปรรูปสินค้าเป็น สามมิติ ดีไม่ดี อาจจะได้กำไรอย่างเป็นประวัติการณ์จนสร้าง SAW VIII ขึ้นมาก็ได้

teaser

ดูคนเดียวไม่ได้ค่ะ เราจิตอ่อน

เด๋วต้องหาคนไปดูด้วย เอ๊ววววววว!!!!!

Area 51
เข้าฉาย ต.ค./พ.ย.

หลังจากสร้างปรากฎการณ์ขวัญผวาให้ประจักษ์พยานแห่งแรงเฮี้ยนใน Paranormal Activity พ่อ Oren Peli อดีตโปรแกรมเมอร์หนุ่ม ก็หันมาทำหนังเรื่องใหม่ ที่ยังคงไม่ทิ้งสไตล์เดิมแบบที่สร้างชื่อไว้ นั้นคือ การถ่ายทำด้วยกล้องวิดีโอ แทน POV ของตัวละครนั้นเอง...
Area 51 เป็นชื่อเรียกฐานทัพปฏิบัติการณ์ของทหารที่ใช้ในการซ้อมรบ และทดลองการใช้อาวุธ ตั้งอยู่ในทะเลทรายเขตเนวาด้า ซึ่งPeli ก็ได้เกิดจินตนาการว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าภายในนั้นมีโปรเจคลับสุดยอด คือการทดลองปฏิกริยาเคมีกับเอเลี่ยนที่จับมาได้...และแน่นอนว่า เรื่องลับๆชวนระทึกเหล่านี้ จะถูกบันทึกลงในกล้องวิดีโอของกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่ค้นพบความลับอันน่าขนลุกนี้
ตัวหนังนั้นไม่ได้เป็นการดัดแปลงมาจากเกมส์ที่มีชื่อเดียวกันแต่อย่างใด (แม้เกมส์นี้จะเกี่ยวกับเอเลี่ยนเหมือนกัน)...คาดเดาได้ว่าแรงบันดาลใจส่วนนึงของผกก. น่าจะมาจากบรรดาหลักฐาน รวมทั้งข่าวลือที่มีการแพร่สะพัดอย่างลับๆว่า รัฐบาลอเมริกันเคยจับเอเลี่ยนไว้ได้ และแอบทำการทดลองลับๆอยู่โดยปิดข่าวเอาไว้...

Let Me In
เข้าฉาย ต.ค./พ.ย.

ใช่แล้ว นี้คืองานรีเมค Let The Right One In อันแสนหนาวเหน็บและโด่งดังนั้นเอง... ตามประสาหนังอินดี้ดังๆ การวัดถึงความสำเร็จอีกหนึ่งขั้น คือถูกประเทศมหาอำนาจซื้อไปทำใหม่ ซึ่งมักได้ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ย่ำแย่ ก็เสมอตัว...แต่ว่าหนังยังไม่ออก ก็อย่าพึ่งมองโลกในแง่ร้ายดีกว่า เพราะฉบับอเมริกันนี้ ที่เปลี่ยนโลเกชั่นหนังจาก กรุงสต๊อกโฮมส์ ประเทศสวีเดน มาเป็นนิว เม็กซิโก ได้ผกก.มือดี Matt Reeves ที่สร้างหนังฮิต เล่าเรื่องฉลาดเท่ๆ อย่าง Cloverfield มากำกับ จึงน่าจะวางใจในเปราะนึง
"เราจะยังรักษาเนื้อหาแบบต้นฉบับไว้ พร้อมกันนั้น จะถ่ายทอดมันออกมาให้เข้าใจ และเข้าถึงได้ง่ายขึ้นในระดับวงกว้างขึ้นด้วยครับ" Simon Oakes โปรดิวเซอร์หนังกล่าว
สำหรับ Let The Right One In นั้น เป็นหนังสวีเดนที่ขึ้นแท่นขวัญใจนักดูหนัง รวมทั้งนักวิจารณ์มากมาย หลายคนยกย่องให้เป็นหนึ่งในหนังสยองขวัญที่ดีที่สุดของปีนั้น หนังสร้างความประทับใจด้วยความเป็นดราม่า ผสานโรแมนติก ท่ามกลางไอหนาวเหน็บอย่างสยองขวัญ และเลียบข้างถ่ายทอดเนื้อหาแบบ coming of age ไว้ หนังกวาดรางวัลเยอะชนิดที่เอากะละมัง 5 ใบ ก็รับไว้ไม่หมด ดีจนเสียวแทนว่าของใหม่จะทำได้ไม่ถึงนะซิ

My Soul To Take
เข้าฉาย ต.ค./พ.ย.

การกลับมาอีกครั้งของราชาหนังสยองขวัญอเมริกันนิวเวฟ ชายผู้สร้างปีศาจร้ายแห่งความฝันขึ้นมา ชายผู้คืนชีพให้หนังฆาตกรโรคจิต ฆ่าต่อเนื่องสวมหน้ากาก Wes Craven กลับมาแล้ว พร้อมหนังเรื่องใหม่ ที่ใช้ชื่อว่า My Soul To Take
หนังว่าด้วยเรื่องของตำนานพื้นบ้านในเมืองเล็กๆแห่งนึง ที่ว่ากันว่า แต่ก่อนนั้นมีฆาตกรต่อเนื่องออกอาละวาด แต่สุดท้ายก็เสียชีวิตลงในป่า ฆาตกรได้ทำการสาปแช่งไว้ว่า เมื่อเวลาผ่านไป มันจะกลับมายังเมืองนี้ และสังหารเด็กทั้ง 7 คน ที่เกิดในวันที่มันตาย... เวลาผ่านไป 16 ปี เด็กทั้ง 7 โตขึ้น และเริ่มเผชิญกับเหตุการณ์ลึกลับ ที่ทำให้พวกเค้าทยอยหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยทีละคนสองคน จะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเค้า ตำนานมีจริงหรือไม่ หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการสวมรอยของบุคคลอื่น หรือแท้จริงแล้วฆาตกรไม่ได้ตายจริง เพียงแต่หลบซ่อนรอเวลาชำระแค้น หรือร้ายที่สุดฆาตกรนั้นตายแล้วกลับมาเกิดใหม่เป็นใครซักคนในบรรดาเด็ก 7 คนนี้
โอ๊ย! ช่างลึกลับชวนขนลุกจริงๆ อยากดูๆๆๆ

โฉมหน้าฆาตกร


หนุ่มน้อยตัวเอกของเรื่อง

Let Me In ไม่น่าเอามาทำใหม่เลย เพราะของเก่าทำไว้ดีมาก ชอบบรรยากาศหลอนแบบเงียบๆมากกว่า หนังพวกนี้พอเอามาทำใหม่ชอบทำให้น่ากลัวแบบตกใจไร้ความสุนทรี

Hatchet 2
ดูภาค 1 แล้วค่ะ โหดได้ใจจริงๆขอบอก
เลือดงี้สาด ท่วมจอกันทีเดียว!!
ดูแล้วอาจติดใจได้!
แหมไปว่าหนังเค้าต้นทุนต่ำ รู้ไหมว่าน้ำแดงที่เอามาทำเลือด
โลละเท่าไหร่ละ อิอิอิ

ตามมาๆๆๆ