กระทู้ประสบการณ์เห็นหมี... ว๊ายยยยยยย...!!!! เห็นผีฮ่ะ   Share

ชื่อกระทู้ก็นิสนึงนะ ให้ฉงนสนเท่ห์สมกับเป็นเจ้าแม่คำผวนแห่งคลับสักกะนิด นานน้านนนน...จะได้ตั้งกระทู้กะเขาสักที เพราะฉายหนังก็ไม่เป็น วิจารณ์ก็ไม่เก่ง ด่าเป็นแต่ในทางไม่สร้างสรรค์ ทำตัวเป็นผู้สังเกตการณ์ชะแว้บไปมาตลอด

ทีนี้เจ้าแม่จะมาเล่าอะไรงั้นหรือ มานึกๆ ดูแล้ว ตั้งแต่มีชีวิตมาจนถึงเข้าสู่วัยเลยเบญจเพศมาหลายปีดีดัก ทบทวนดูประสบการณ์ครั้งแรกของหนุ่มสาวน่าจะเห็นผีไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง (ส่วนเห็นหมีนั้นอาจจะบ่อยกว่า) ทำไมเราถึงไม่ลองรวบรวมมาเล่าให้เป็นวิทยาทานแก่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ บุตรหลานดูบ้าง ตั้งคลับมาก็หลายปี อีเจ้าแม่ก็หัวช้าเนอะ เพิ่งจะคิดได้

ความคิดเห็นที่ 1

น้ำเยอะแระ เดี๋ยวจะโดนด่า มาเข้าเรื่องซะที

เรื่องที่ 1: ผีตัวเปียก

ครั้งแรกเลยนะ กับประสบการณ์เห็นผีของทันย่าเกิดขึ้นตอนวัยทีนเอจ สมัยเป็นวัยรุ่นสาวชาวใต้ชอบเหวนรถเครื่องกับเพื่อนแถวพานหิน อ่านการ์ตูนผีดูหนังผีมาเยอะ ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเองจังๆ .... คืนนั้น อยู่ในสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น รู้สึกบรรยากาศรอบตัวมันวิ้งๆๆๆ ได้ยินเสียงแม่เล่นเกมเตอร์ติสอยุ่ข้างห้อง แม่ก็ไม่รู้จักปุ่ม volume เลยรึไง ทันใดนั้นเกิดอาการขยับตัวไม่ได้ อ๊ะ... เอาแล้วสิ แว่บแรกที่คิด “ผีอำ” เฮ้ย..ไม่ใช่หรอก แม่ไม่เคยสอนให้เชื่อเรื่องลี้ลับ ทุกอย่างพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ อ่ะโอเค..กรูคงนอนทับเส้น ขยับนิดเดียวน่าจะหาย เอ่อ.. ขยับไม่ได้เลยอ่ะ นอนคิดๆๆๆ ทำยังไงดี หรือว่าผีจะอำจริงๆ ถ้าหากว่าผีอำจริง ก็ขอดูหน่อยแล้วกันว่าเป็นไง เลยพยายามลืมตาให้ได้ แม้จะลำบากมาก และแล้ว.......... ความพยายามก็สำเร็จ

--------------------------------------------------

กรี๊ดดดด... อกอีแป้นแตก หน้าแทบประชิด ตาโหลๆ ผอมๆ จ้องเราอยุ่ในความมืด โอยๆๆ ทำไมต้องทำร้ายสวยอย่างนี้... จึงจำเป็นต้องหลับตาอีกรอบเพราะตกใจกลัว เสียงเกมเตอร์ติสจากห้องข้างๆ ก็ยังคงดังกึกก้องอยู่ ขยับก็ไม่ได้ เรียกก็ไม่ได้
อร๊ายยยยย... ชั้นจะทำยังไงดี

ในเมื่อแก้ไขอะไรไม่ได้ จึงฉุกคิดว่า เราอาจจะคิดไปเองหรือเปล่า ผีไม่มีจริง เมื่อกี๊คงคิดไปเองแหงๆ... ขอลืมตาอีกรอบ คราวนี้รู้สึกลืมตาง่ายขึ้น ........ ทันใดนั้น!!!!!!!!!

ผ่าง!!!!!!!!.. หน้าเดิมเลยอ่ะ คราวนี้จ้องตาเราด้วย (เชี่ย.. กรูกลัว) เพิ่งสังเกตว่าผู้ชายคนนี้ตัวเปียก ผมเป็นลอนแบบเปียกๆ แล้วสายตาก็มองเห็นน้ำจากผมของเขา หยด .... หยดโดนหน้ากรูเลย ไม่ไปเช็ดหัวให้แห้งก่อนค่อยมาอำกรูฟระ... ความรู้สึกที่ได้รับคือรู้สึกเย็น และเปียกไปตามหยดน้ำที่หยดมา หยดแล้วหยดเล่า ทันย่าจึงปิดตา ... สวดมนต์... ไม่เป็น..เพราะ...เข้าเรียนสาย ไปสวดมนต์ไม่ทัน ไปทันตอนสังฆังนะมามิ กราบ... ทุกที แล้วกรูจะสวดอะไรดี

ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เอาวะ เป็นไงเป็นกัน กรูสวดมนต์ไม่ได้ แต่ถ้าอยากให้กรูทำบุญให้ บอกเลขมาซะดี งวดนี้ออกอะไร...... !!!!! .... ไม่มีเสียงตอบรับ ไม่มีสัญญาณใดๆ ร่างยังคงขยับไม่ได้ สักพัก (คิดว่าผีคงเบื่อ) ร่างกายก็รู้สึกเป็นอิสระ ผึงงงงง..... ลืมตามองเพดาน โอ้ววว... ยังเป็นเพดานเดิมๆ เอามือจับหน้า หน้าชั้นยังแห้งอยู่ ความรู้สึกเย็นๆ เปียกๆ เมื่อแต่เดี๋ยว ได้หายหมดแล้ว... แต่สิ่งที่ยังคงอยู่คือเสียงเกมเตอร์ติส

ทันย่าไม่รอช้า ลากฟูก เปิดประตู เปิดห้องแม่ ปูที่นอน นอนไม่พูดไม่จา แม่เงยหน้าจากเกมแล้วถามว่าเป็นไรวะแก... วินาทีนั้นรู้สึกเพลียอย่างประหลาด อยากนอนมากกว่า จึงหลับไปโดยไม่ตอบอะไร

................จบประสบการณ์ครั้งแรก..................

ความคิดเห็นที่ 2

อาจจะไม่ตามลำดับเวลานะคะ นึกถึงเรื่องไหนก็เล่าเรื่องนั้นแล้วกันเนอะ

เหตุการณ์เกิดขึ้นห้องเดิม ภาษาชาวบ้านเรียกว่า “ไม่หลาบ” หลังจากประสบการณ์ครั้งแรกผ่านไปได้ไม่นาน ความกลัวหดหายไป จึงกลับมานอนห้องตัวเองอีกครั้ง บางคนอาจจะสงสัย ทำไมยังกลับมา แหม.. ก็นอนห้องนี้มาตั้งแต่ 7-8 ขวบ ความคุ้นเคยอะไรต่างๆ มันก็ทำให้ไม่กลัวน่ะสิ แต่ว่าทำไมไม่รู้ เพิ่งจะได้เห็นของดีทั้งๆ ที่ก็อยู่ห้องนี้มานาน

ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอเม้าท์นิดนึง เดิมทีห้องนี้เป็นห้องนอนของเรากับพี่ชาย พอพี่ชายมาทำงานกรุงเทพฯ อะฮั้นจึงได้ครอบครองแต่ผู้เดียวนับแต่นั้น เคยได้คุยกับพี่ชายเรื่องนี้ พี่ชายทำตาโต ถามว่า “เมิงเพิ่งจะเห็นเรอะ กรูอ่ะโดนประจำ พยายามจะตะโกนเรียกเมิงแต่เรียกไม่ได้” เอาล่ะสิ... ไม่ใช่เราเห็นคนเดียวหรอกหรือ ส่วนบ้านหลังนี้จะมีประวัติความเป็นมาอย่างไรนั้น ไม่มีใครรู้เลยจริงๆ ลักษณะบ้านเป็นตึกแถวไม่เก่านะ เมื่อก่อนน้าเปิดเป็นร้านขายรองเท้า Bata ตอนหลังท่านไปบวชชีตลอดชีวิต เลยยกให้แม่อยู่ ก็แค่นั้น ในยุคนั้นบ้านก็ยังไม่เก่า เป็นตึกแถวใหม่ด้วยซ้ำ

ความคิดเห็นที่ 3

เรื่องที่ 2 : ผีชุมนุม
เรื่องนี้ไม่ยาวนะคะ เพราะมันเกิดขึ้นค่อนข้างรวดเร็ว
เรียนหนังสือ เรียนพิเศษ ทำการบ้าน ตามประสาชีวิต นร. ม.ปลาย โดยปกติแล้วช่วงหัวค่ำจะเป็นช่วงที่แม่ยังไม่กลับบ้าน เพราะแม่จะกลับบ้านประมาณ 4-5 ทุ่ม ทำงานไกล๊..... ไกลเหลือเกินค่ะ... เดินข้ามถนนไปก็ถึง ชีเลยกลับดึกบ้างไรบ้าง

ด้วยความเพลียของเด็ก ม.ปลายผู้เกียจคร้าน ทำการบ้านเสร็จ นอนแม่งทั้งชุดนักเรียนนั่นแหละค่ะ แต่นะคะ ยังไม่หลับนะตอนนั้น เพิ่งจะหลับตายังไม่ทันไร หูได้ยินเสียงจ๊อกแจ๊ก จอแจ ก็แอบบ่นในใจทำไมหนวกหูจัง เสียงจอแจนั้น ไม่ไกลเลย อยู่ประมาณเหนือหัวไปไม่ถึงเมตรนี่เอง ทันย่าลืมตาเล็กน้อย กำลังคิดว่าจะหันไปทางต้นเสียงดีหรือไม่ .... ด้วยความอยากรู้อยากเห็น (ภาษาชาวบ้านเรียกว่าบ้า) จึงแหงนหน้าขึ้นไป ... อ๊ะตายห่า... นั่งล้อมวงกันประมาณ 4-5 คน ..... !!!!!!

หันหน้ากลับมาคิดทบทวนอีกที... พลางคิดๆๆๆ ถ้าเราลุกไปตอนนี้ แล้วไม่หันไปมอง ทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นดีหรือไม่... เพื่อความมั่นใจ (อีกแล้ว คราวที่แล้วก็อย่างนี้) ... จึงหันไปมองอีกที เอิ๊กกก... กลุ่มเดิม... แต่คราวนี้ หันมามองเรากันด้วย......เช็ดดดดด..... สะดุ้งเฮือก!!!!! ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก หลับตาปี๋ รีบหันกลับ ลุกขึ้นยืน (แบบไม่เหลียวหลัง) ล็อคบ้าน .... วิ่งๆๆๆๆๆ ไปหาแม่...... แงๆๆๆๆ

ความคิดเห็นที่ 4

ก๊อบรูปมาจากในเน็ต (ขออำภัยเจ้าของรูปนะคะ) เพื่อเอามาเป็น reference เฉยๆ บ้านเราอยู่ช่วงประมาณที่วงไว้ แต่ตอนนี้ไม่ได้อยู่แล้วนะ ป้าให้คนอื่นเช่าไปแล้ว

ความคิดเห็นที่ 5

ไม่เคยนิมนต์ หรือหมอมาดูเหรอพี่ เผื่อยะรู้ว่าอยากได้ไร บรื๋อออออออ

ความคิดเห็นที่ 6

อ๊ะ รูปไม่ได้วงนะ .. ช่างมันเนาะ เอาเป็นว่าคูหาที่อยู่ลึกๆ ในรูปน่ะ แต่ไม่ระบุว่าหลังไหนนะจ๊ะ

ความคิดเห็นที่ 7

น้องป่าน ไม่เคยนิมนต์พระมา แม่เคยพาหมอดูมา แกไม่ได้พูดไรมาก แค่บอกว่าที่นี่เยอะนะ แค่เนี้ยะ... หมอดูไม่บอกกรูก็รู้ ... หลายตนเหลือเกิน

ความคิดเห็นที่ 8

บ้านคนจีนที่ภูเก็ตโดยมากจะมีบ่อน้ำในบ้านเรียกว่า "ฉิ่มแจ้" ถ้าใครเคยดู 13 เกมสยองน่าจะพอนึกออก บ่อน้ำปูนอยู่กลางบ้านแบบนั้นเลย แต่ตอนหลัง บ้านที่เราอยู่มีคนมาเช่าหน้าร้านเป็นร้านเสริมสวย เลยทำการถมบ่อไปเรียบร้อย

เอ....ไม่แน่ใจว่าผีตัวเปียกมาจากบ่อนี้หรือเปล่า เราก็เดาไปเรื่อย

ความคิดเห็นที่ 9

ผีอำเจอบ่อยเหมือนกันเลยค่ะ แต่ผีล้อมวงนี่ น่ากลัวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก TT^TT

ความคิดเห็นที่ 10

หมดแล้วเหรอฮะ เอาอีกดิ เอาอีก ^ ^

ความคิดเห็นที่ 11

เรื่องที่ 3 : ผีไล่ที่

ก็จะเล่าไปเรื่อยๆ แล้วกันนะคะ อ่านกันเพลินๆ หรือถ้าอืดก็ตั้งกระทู้ใหม่ก็แค่นั้น พยายามจะระลึกชาติว่าเจออะไรมาบ้าง คัดกันมาแค่เรื่องที่ไฮไลท์จริงๆ เรื่องยิบๆ ย่อยๆ คัดทิ้ง ไม่มัน

((((( อร๊ายยย... พิมพ์ไป ฝนตกไป หนูกลัววววว....

ก็หลังจากที่เจอเพื่อนร่วมห้องมากครั้งเข้า ทันย่าจึงทำการย้ายสำมะโนครัวเข้าไปนอนห้องแม่เป็นการกึ่งถาวร ที่ยังไม่ถาวรก็เพราะสามีแม่ (ซึ่งก็คือพ่อ) ยังไปๆ มาๆ กรุงเทพฯ – ภูเก็ต / ภูเก็ต – กรุงเทพฯ เนื่องจากพ่อต้องทำธุรกิจที่กรุงเทพฯ การมาภูเก็ตจึงเป็นการมาหาลูกหาเมียแค่นั้น อีลูกก็รู้หน้าที่ แหมก็นะ... สามีภรรยาไม่ค่อยได้เจอหน้ากันก็คงอยากกระหนุงกระหนิงง้องแง้งเงอะงะกัน 2 คนตามประสา เราก็อย่าได้เป็นก้างขวางคอเขาเลย ย้ายกลับถิ่นดีกว่า

การย้ายกลับถิ่นเป็นไปด้วยความราบรื่นทุกอย่าง จนรู้สึกย่ามใจ ... เมื่อพ่อได้เดินทางกลับกรุงเทพฯ ไป ลูกผู้มีสันดอนขี้เกียจอยู่ในตนเกิดอาการไม่อยากย้ายออกจากห้องของตัวเอง คิดว่า คงไม่มีอะไรแล้วล่ะมั้ง ...... เมื่อนั้น เหตุการณ์ชวนขนพองก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เป็นเพราะประมาทแท้ๆ

เหตุเกิดยามเย็น บรรยากาศแบบผีตากผ้าอ้อม เช่นเคย .. กลับจากโรงเรียนในวันที่ไม่มีเรียนพิเศษ ต้องนอนก่อนกินข้าวเย็น ขณะนั้น ในขณะที่กำลังหลับอยู่ดีๆๆๆๆๆ มีเสียงผู้หญิงแก่ๆ ใจร้าย ตะโกนขึ้นมา

“ออกไปเดี๋ยวนี้นะ .. ไม่ต้องมาอยู่ ออกไป!!!!!”
เฮ้ย...

พอกำลังจะลืมตาตื่น กำลังจะลุกแล้วเชียว ชียังย้ำอยู่อีกนะ

“บอกแล้วใช่ไหม ไม่ให้อยู่ ออกไปๆๆๆ”

โอ๊ยยย... ให้จังหวะลุกมั่งไรมั่งดิ คนกำลังนอน... มาเร่งอยู่ได้

ลุกขึ้นได้ รูดซิปกระโปรงนักเรียนยังไม่ทันบิดหมุนกระโปรงให้เข้าที่ก็เผ่นล่ะค่ะ..... อยู่ทำไมล่ะคะ เขาไล่แล้ว....โกยแน่บบบบบบ แบบไม่เหลียวหลังด้วย

...........จบตอนผีไล่ที่...............

ความคิดเห็นที่ 12

โอ้ว นี่มัน tales form the crypt (เวอร์ชั่นไทย)นี่

ความคิดเห็นที่ 13

ถ้าค่ำๆ ไม่ติดอะไรมาเล่าต่อนะคะ มีอีกหลายเรื่องมากมาย จะเบื่อกันไหมนี่.. อิอิ... ตอนนี้เดินทางกลับบ้านก่อนค่า....

ความคิดเห็นที่ 14


เจอผีโชกโชนมากกกกกก

ไม่ถึงตอน ผีขยำหัว ห้ามจบนะ ขอหลายๆ Episode ชอบๆ

ความคิดเห็นที่ 15

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด



น่ากลลัวววว

ความคิดเห็นที่ 16

มาแล้วจ้า... ไม่รู้ยังติดตามกันอยู่หรือเปล่า คงไม่เล่าถึงตอนผีขยำหัวตามข้อเสนอแนะของลุงแคปนะ หุหุหุ... ไม่งั้นคงต้องจัดเรตเป็น 20+++

อาจจะผิดหวังเล็กๆ ที่เจ้าแม่กล่องดำไม่เล่าเรื่องผีกระตุกหัว โอ๋ๆๆๆ แต่ช้าแต่ .. เจ้าแม่ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์เห็นผีอีกสัก 4-5 ตอนแล้วกันเนาะ

มาตามกันต่อด้วยเรื่องนี้ ซึ่งคิดว่าเป็นประโยชน์ต่อทุกคน เรื่องผีมันจะเป็นประโยชน์ยังไงฟระ ลองมาดูแล้วกัน

เรื่องที่ 4 : ผีขี้ทวง

เป็นอุทาหรณ์ให้ทุกคนเลยนะ คือว่าคืนก่อนวันเกิดเหตุ นั่งแพ็คของที่บ้านป้ากับพี่ๆ ข้าวสาร อาหารแห้ง นม ปลากระป๋อง กะว่าเช้าวันรุ่งขึ้นจะไปใส่บาตร ซึ่งบ้านป้ากับบ้านตัวเองเนี่ยอยู่ตรงข้ามกันเอง นัดกันเรียบร้อยว่าต้องตื่น 6 โมงครึ่งประมาณนี้

อรุณเบิกฟ้า นกกาโบยกิน ออกหากินร่าเริงแจ่มใส.....ทันย่าลืมตาตื่นช้าๆ เพราะเสียงนกเสียงกา มือคลำหาแว่นหนาๆ สำหรับคนสายตาสั้น 550 ใส่ หรี่ตาเบาๆ มองไปที่นาฬิกา.... 7 โมง!!!!! กรี๊ดดดดดดดดดด.... สายค่ะ!!!! กระเด้งตัวขึ้นแบบแจ๊คกี้ ชาน ฟันไม่แปรง วิ่งไปบ้านป้ากะว่าลองดูเผื่อทัน เจอพี่ที่บ้าน พี่เขาบอกว่า พี่ก็ตื่นสายเหมือนกัน ไม่ทันแล้ว ไว้พรุ่งนี้แล้วกันเนอะ

อ่ะ.. ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วนี่เนอะ เลยโอเค เดินกระย่องกระแย่ง ข้ามถนน กลับบ้านมานอนต่อดีกว่า ยังเมาขี้ตาอยู่เล้ยยยยย เดินมาถึงห้องนอน (ห้องแม่นะ ห้องตัวเองเลิกนอนแล้วไว้ทำการบ้าน แต่งตัว) หัวฟาดที่นอน หลับทันที...

ในสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น ภาวะคลื่นสมองกำลังผันจากเบต้าเข้าสู่อัลฟ่าแต่ยังไม่เข้าเธต้า น่ะ.. อีกแล้ว บรรยากาศรอบตัวเริ่มวิ้งๆ หมุนๆ เข้าสู่บรรยากาศเห็นผีอีกแล้ว เรื่องไรกรูจะลืมตาเชอะ เดี๋ยวก็เห็นไรอีกหรอก บทเรียนคราวก่อนๆ ก็สอนมาแล้วนี่ว่าลืมตาแล้วจะเจออะไร

ไม่นะ.. ชั้นจะไม่ลืมตา.. ไม่ๆๆๆๆ

สักพัก ... ข้างใบหูรู้สึกเย็นวาบบบ... (จำไม่ได้ว่าข้างซ้ายหรือขวา) และได้ยินเสียงกระซิบแต่ชัดเจนมากว่า "ไหนว่าจะให้แล้วทำไมไม่ให้... " .... "บอกว่าจะให้ทำไมไม่ให้" ชัดเจนไร้เอคโค่ ใครจะทำหนังผีจำไว้เลยนะ เสียงผีของจริงไม่มีเอคโค่ใดๆ

ทันย่าลุกขึ้นนั่งทั้งๆ ยังหลับตา คลื่นสมองกลับมาทำงานในโหมดเบต้าอีกครั้ง กราบ 4 ทิศราวกับภราดรเข้าสิง พร้อมบอกกับทุกคนในที่แห่งนั้นว่า ขออภัยจริงๆ พรุ่งนี้จะไม่ลืมนะคะ แต่ไม่ต้องปลุกนะ จะตื่นเอง...

-----------------------

อยากจะสรุปอย่างนี้ว่า ถ้าตั้งใจจะทำบุญ พูดออกไปแล้ว ทำด้วยล่ะ เพราะสิ่งที่อยู่รอบข้างเรา เขาได้ยิน และรอนะ ไม่อยากโดนทวง จงทำซะ...

ความคิดเห็นที่ 17

ตัวหนังสือเยอะ ปวดหัวคั่นด้วยรูปบ้างไรบ้าง มีเกร็ดเล็กๆ เกี่ยวกับเมืองภูเก็ตโปรโมทการท่องเที่ยวไปในตัว 555555

นี่คือหัวมุมถนน เดินตรงไปเรื่อยๆ ก็บ้านเราแหละ อดีตที่ตรงนี้มันคือชาเตอร์แบงค์ คนภูเก็ตเขาเรียกงี้จริงๆ นะ เพราะมันคือธนาคารแห่งแรกที่เข้ามาเปิดในภูเก็ตตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องจากสมัยนั้นภูเก็ตเป็นหนึ่งในการค้าขายแร่ดีบุก จึงต้องมีการเงินที่เป็นสากล ถนนบ้านเราสมัยก่อนเรียกว่าถนนธนาคาร ปัจจุบันก็เป็นแหล่งรวมธนาคารที่เยอะที่สุด

ความคิดเห็นที่ 18

รูปนี้เซฟมาจากในเน็ต ไม่รู้ว่าถ่ายเมื่อ 100 ปีที่แล้วหรือเปล่า เอิ่ม..... นี่หมายความว่าบ้านชั้นก็มีประวัติศาสตร์น่าจะยาวนานแฮะ... ถนนเส้นนี้คือถนนบ้านอะฮั้นเลยนะฮ้า...

ความคิดเห็นที่ 19

อ๊าก กะลังมันๆ มีอีกป่าวววว

ความคิดเห็นที่ 20

ชื่อถนนจ้า... จ.ภูเก็ตแท้ๆ แต่ชื่อถนนดันเป็น ถ. พังงา

ความคิดเห็นที่ 21

@Evil Princess มีเรื่อยๆ จ้า ถ้าไม่เมื่อยซะก่อน ตอนนี้เอาภาพมาช่วยเสริมบรรยากาศเท่านั้นเอง

เจ้าแม่โลมาแห่งลัทธิบูชาแท่งได้คอมเม้นท์ว่า ที่อยู่ในบ้านเธอนี่คงอยู่มานานร่วมร้อยปี ที่ชั้นเจออาจเป็นผีโบราณก็ได้ เพราะดูรูปเก่าแล้วมันช่างขลังเหลือเกิน

ความคิดเห็นที่ 22

ท่านเจ้าของกระทู้น่าจะเป็นคนมี 6 เซนต์อ่ะครับ แต่ถ้ามี 7 เซนต์ล่ะก็คือโกลด์เซนต์แน่ๆ อิอิ (ฮ่ะ..ล้อเล่นครับ ^^")

ความคิดเห็นที่ 23

@riderkop เป็นความใฝ่ฝันอันลึกๆ เลยนะ โกลด์เซ้นต์เนี่ย

จะว่าไป ก็ไม่เคยคิดเลยนะว่าตัวเองจะเป็นพวก I see dead people เพราะพอจบ ม.ปลายมาเรียนต่อที่กทม. ก็ไม่ค่อยเจออะไรนะ ยังพอเจอบ้างประปรายแต่ไม่บ่อย เดี๋ยวมีโอกาสจะเล่าเรื่องที่เจอผีนอกภูเก็ตบ้าง 55555

ความคิดเห็นที่ 24

คนที่เช่าร้านก็เล่าให้ฟังอยู่ว่า แกได้ยินเสียงคนเดินอยู่บนบ้านประจำ ทั้งๆ ที่ทุกคนออกไปข้างนอกหมดแล้ว แม่ไปทำงาน อิลูกไปโรงเรียน แล้วเสียงคนเดินข้างบนนั่นใคร?????

แปะรูปบริเวณหน้าบ้าน ดูไม่น่าเชื่อเนอะว่ามีอดีตอันยาวนาน

ความคิดเห็นที่ 25

สนุกๆ เอาอีกๆค่ะ

ความคิดเห็นที่ 26

แหม กำลังอ่านได้ที่เลยครับ อย่าขาดตอนเชียวล่ะ อิอิ

ความคิดเห็นที่ 27

คนอ่านสนุกกันใหญ่ แต่คนเจอผีไม่สนุกนะคะ ^^"

เพื่อความสุขของทุกคน เดี๊ยนทำได้ค่ะ (นางงามมว๊ากกก....)

วันนี้งานยุ่งๆ นิสนึง เดี๋ยวเคลียร์ๆ หน่อยแล้วมาต่อกันค่ะ

ความคิดเห็นที่ 28

ขอฝากเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้ายสำหรับซีรีย์ผีในบ้านเลยแล้วกันเนอะ จริงๆ ก็เจอประปรายบ้างไรบ้าง แต่ไม่ค่อยได้ใส่ใจสนใจแล้วเพราะความชิน

อันที่จริงก็มีเจอนอกบ้านบ้างเหมือนกัน แล้วจะแตกกระทู้เป็นอีกกระทู้นึงแล้วกันเป็นซีรีย์ผีนอกบ้าน 5555 ฝากติดตามด้วยนะคะ ^^

เรื่องที่ 5 : ผีจับมือ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ทุกประการ

ช่วงใกล้สอบ เป็นฤดูแห่งการส่งการบ้านที่คั่งค้างและรายงานต่างๆ ไม่งั้นอาจะติด "ร" เอาได้ เด็กดีอย่างทันย่ามีรึจะยอมติด "ร" การบ้าน 2 สัปดาห์ส่งที ส่วนรายงานไม่จวนตัว ไม่ส่ง ... สมัยนั้นยังต้องเขียนรายงานจนนิ้วกลางบวมปูดไม่ได้มีเทคโนโลยีพิมพ์พรวดๆ เหมือนทุกวันนี้ จึงจำเป็นต้องเอารายงานเพื่อนมาทำการ copy and paste ด้วยลายมือเรานี่แหละ

ระหว่างกำลังลอกอย่างเมามัน จับเวลา 1 หน้าต่อ 10 นาที พรุ่งนี้ต้องส่งแล้ว แว๊กกกก!!!!! ขณะที่กำลังปั่นอยู่นั้นเอง มือที่กำลังเขียนอย่างไหลลื่นต้องมีสะดุด รู้สึกเหมือนถูกขัดขวาง เริ่มเขียนไม่ค่อยจะออก บรรทัดโย้เหมือนมือโดนผลักเบาๆ

โอเค ชั้นคงเมื่อยเกินไป สะบัดๆ มือ 2-3 ที ถูฝ่ามือเป็นแมลงวัน หักนิ้วเป๊าะๆ เล็กน้อยไล่อากาศตรงข้อ มาเขียนกันใหม่ .... อ๊ะ แค่เริ่มจรดปากกาเท่านั้นเอง ก็รู้สึกมือโดนขืนไม่ให้เขียน จะเขียนออกได้สักคำนึงรู้สึกใช้แรงเยอะพิกล เมื่อย + เหนื่อยมากๆ

ไม่ไหวแล้ว นาทีนั้น หรือชั้นจะหักโหมเกินไป ทันย่ากุมขมับ เกาหัวแกรกๆ มือยังจับปากกาคาอยู่ที่สมุด ... สักพักมือก็เลื่อน... กรูว่ากรูไม่ได้บังคับให้เขียนนะ !!! มือโดนเลื่อนให้ไปทางขวาเบาๆ ปลายปากกาเขียนออกมาเป็นเส้นเล็กๆ บางๆ ไม่รู้เรื่อง แต่ตอนนั้นด้วยความที่กลัวจะลอกการบ้านไม่ทันมากกว่า จึงนั่งร้องไห้ แล้วขอร้องว่าอย่าเพิ่งมาป่วนตอนนี้ได้ไหม กรูทำงานไม่ทันเนี่ยเห็นมั้ยยยย!!!!! พรุ่งนี้กรูต้องส่งแต่เช้า ฮือๆๆๆๆๆๆ...

ตั้งสติลองใหม่... แค่ปลายปากกาจรด เอาอีกแล้ว ปัดมือกรูออกอีกแล้ว ฮือ.. ไอ้ผีเฮงซวย .. เมิงจะเอาไงกับกรู

โมโหจนเฟี่ยงปากกาขว้างมั่ว ไม่รู้แหละจะโดนหัวผีตัวไหน โกรธมากกว่ากลัวผีซะด้วยตอนนั้น (เก่งชิปหายแล้ว) รวบการบ้านรายงานทั้งหมด วิ่งออกนอกบ้านไปนั่งทำบ้านป้า เชอะ... มึงแกล้งกรู กรูไม่อยุ่ก้อด๊ายยยยยย......

ความคิดเห็นที่ 29

^^

ความคิดเห็นที่ 30

รอชมนะครับ ผมเองก็เจอบ่อยเหมือนกัน


Function Used time : 0:0:0:0