“คือหนึ่งในหนังแนวซอมบี้ที่ดีเยี่ยมที่สุดตลอดกาล!”  : The Night Eats the World / 2018 (ต้องรอด!…กลางปารีส!)

เห็นใบปิดของหนังเรื่องนี้แบบผ่านๆ รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยถึงปานกลางกับภาพประหลาดๆ ภาพของกรุงปารีสหัวกลับ แล้วก็มีใครคนหนึ่งที่กำลังลอยดิ่งลงสู่พื้นเบื้องบน(ล่าง) ด้วยความประหลาดใจและอำนาจแรงดึงดูดจากใบปิดของหนังเรื่องนี้เอง ที่ทำให้ผมต้องออกตามหาตัวเต็มของมันมารับชมเสียสักครั้ง จนพบว่ามันคือ…. “หนึ่งในหนังแนวซอมบี้ที่ดีเยี่ยมที่สุดตลอดกาล!”  (ในใจของผม) หนังเรื่องนี้มีชื่อว่า The Night Eats the World / 2018 (ต้องรอด!…กลางปารีส!)

The Night Eats the World / 2018 หรือ La nuit a dévoré le monde / 2018 เป็นหนังสยองขวัญสายหนีตายโคตรฝูงซอมบี้จากประเทศฝรั่งเศส โดย Director: Dominique Rocher ได้สองคู่หูอย่าง Pit Agarmen และ Jérémie Guez รับอาสางานด้าน Writers จนหนังได้บทที่ลงตัวราวไวน์รสเลิศที่เพาะบ่มกลมกล่อมท่ามกลางอุณหภูมิที่เหมาะสม

เรื่องราวหลักๆภายใน The Night Eats the World โฟกัสลงไปที่การดำเนินชีวิตของชายชาวฝรั่งเศสกลางกรุงปารีสคนหนึ่งชื่อ Sam (รับบทโดย Anders Danielsen Lie) ชายเพิ่งโสดเพราะถูกอดีตแฟนสาวคนรักทิ้งกลางงานปาร์ตี้อย่างไร้เยื้อใยภายในแฟลตแห่งหนึ่ง เขารู้สึกเซ็งๆงานปาร์ตี้ในค่ำคืนนี้เป็นอย่างมาก เลยเดินเลี่ยงออกมาจากงาน เดินเข้ามาขังตัวอยู่ภายในห้องเก็บของ ดื่มเหล้า, กินยา แล้วก็เผลอหลับลึกไป(เพราะฤทธิ์ยา) ช่วงขณะนี้เองที่ประสาทสัมผัสของ Sam ไม่ขอรับรู้อะไรทั้งสิ้น เขาไม่ได้ยินเสียงใดใดจากภายนอก จวบจนหลายชั่วโมงหรือหลายวันผ่านไปก็ไม่อาจรู้ได้  ตัวเอกของเราก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง  แล้วก็พบว่า….โลกทั้งใบ ใจกลางกรุงปารีส ณ ตอนนี้มันเปลี่ยนไปอย่างชนิดหน้ามือเป็นหลังเท้าเสียแล้ว เพราะจู่ๆก็เกิดการระบาดของเชื้อซอมบี้ตรงใจกลางกรุงปารีสพอดิบพอดี ผู้คนล้วนอพยพหนีตายออกจากเมือง คนที่หนีไม่ทันก็ได้แต่หลบอยู่ภายในบ้าน, ภายในแฟลต เงียบๆ….

Sam พอตั้งสติได้ เขารีบวิ่งลงไปชั้นล่างของแฟลต แล้วปิดประตูบานใหญ่ ทางเข้าเพียงทางเดียวของแฟลตแห่งนี้ลง (พร้อมลงกลอนประตูให้แน่นหนาที่สุด) เขาเริ่มสำรวจห้องต่างๆภายในอาคารแฟลตหลังนี้อย่างละเอียด ว่าห้องไหนมีใครติดเชื้อซอมบี้บ้าง เขาก็จะทำการล็อกประตูแล้วเขียนสัญลักษณ์ X ไว้ตรงหน้าห้อง (สัญลักษณ์ X = อันตราย, ห้ามเปิด) ส่วนอีกหลายห้องที่มีการฆ่าตัวตาย หรือเจ้าของห้องหลบหนีออกไปแล้ว Sam ก็จะเข้าไปรื้อค้น หาอาหาร, น้ำ, อาวุธปืน และสิ่งของต่างๆสำหรับยังชีพ ในใจเขาคิดเพียง…. “ตอนนี้ต้องขังตัวเองอยู่ภายในแฟลตหลังนี้นี่แหล่ะ น่าจะปลอดภัยที่สุดแล้ว ฉันจะพยายามกินอาหาร, น้ำ อย่างประหยัดที่สุด แล้วก็เฝ้ารอคอยความช่วยเหลือจากหน่วยงานของภาครัฐ ฉันจะเฝ้ารออยู่ที่นี่ ในนี้ ไม่ออกไปข้างนอกเด็ดขาด ข้างนอกมีแต่ฝูงซอมบี้ ออกไปก็เท่ากับฆ่าตัวตายชัดๆ….”

คนดูจะได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของชายคนนี้ Sam กับวิถีชีวิตของเขา การขังตัวเองอยู่ภายในแฟลตปิดตาย พร้อมอาหาร, น้ำ, และอาวุธปืนที่เขาค้นเจอจากห้องชั้นล่างสำหรับป้องกันตัวจากฝูงซอมบี้ข้างนอก ว่าท้ายที่สุดแล้ว พฤติกรรมที่เขาทำ จะสามารถทำให้เขารอดพ้นจากหายนะครั้งนี้ได้จริงหรือไม่ ( ???? )

****** ความเห็นส่วนตัวของผู้รีวิว
ถาม….ถ้าคุณพักอยู่ในแฟลตใหญ่แห่งหนึ่งกลางเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส แล้วจู่ๆก็เกิดเชื้อซอมบี้ระบาดอย่างหนักในเมืองที่คุณใช้ซุกหัวนอนอยู่ คุณจะทำยังไง ( ???? )
ตอบ….ถ้าเป็นผมนะ จะพยายามเก็บตัวอยู่เงียบๆในแฟลตนั่นแหล่ะ ใครจะเดินทางไปไหน หนีไปไหน ผมไม่ไปทั้งนั้น สู้ซุกตัวอยู่ในแฟลตเงียบๆ ปิดประตูทุกบาน หาของกินมาตุนไว้ แล้วรอคอยความช่วยเหลือ น่าจะเป็นแนวทางที่เซฟตัวเองดีที่สุด ผมเชื่อว่านักดูหนังสยองขวัญหลายๆคนก็น่าจะมีไม่น้อยที่คิดแบบผม ประมาณ…. “ปลอดภัยไว้ก่อน เพราะจากประสบการณ์ที่ดูหนังสยองขวัญเกิน 90% ตัวละครที่ออกไปแสวงโชคนอกเซฟโซน มักจะไม่รอด!!”

The Night Eats the World / 2018 เรื่องนี้ถือเป็นหนังแนวซอมบี้สายเอาตัวรอด (Survival) อย่างแท้จริง หนังไม่มีฉากที่เวอร์ๆอย่างใน Resident Evil หรือแบบหนังซอมบี้แนวลุยๆเรื่องไหน แต่ใน The Night Eats the World / 2018 นำเสนอเรื่องราวการเอาตัวรอดแบบเสมือนจริงของชายที่ชื่อ Sam  เป็นฉากการหนีตายจากดงซอมบี้ที่สมจริงมากๆ และทุกฉากล้วนตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ไล่ตั้งแต่ตัวเอกกินเหล้า-กินยาจนเพลีย แล้วก็ตื่นขึ้นมาจากการอาการหลับลึก เจอสถานการณ์ที่บีบคั้น(ซอมบี้จู่โจมกรุงปารีส) ด้วยสามัญสำนึกของมนุษย์ปกติธรรมดาเช่นเราๆท่านๆ ตัวเอกจึงเลือกที่จะวิ่งลงไปที่หน้าแฟลตเพื่อปิดประตูทางเข้าให้แน่นหนามิดชิดที่สุด หลังจากนั้นก็จัดการสำรวจส่วนต่างๆภายในแฟลตหลังนั้นจนมันกลายเป็นบังเกอร์ที่ปลอดภัยที่สุดของตัวเขา  ที่นี่มีทั้งอาหาร, น้ำ, เหล้า, ยารักษาโรค ที่หารื้อเอาได้จากห้องพักต่างๆภายในแฟลต เราจะได้เห็นภาพการดำเนินชีวิตอย่างยาวนาน เงียบเหงา ราบเรียบ ไร้ความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ส่วนกลางของภาครัฐ จนทำให้ตัวเอกสติแตกต้องรื้อกลองจากห้องข้างๆมาตี ตี ตี เพื่อให้เกิดความสะใจ ปลดปล่อยอารมณ์จากความเดียวดาย จนเขาเกือบตายเพราะความสะใจนี้แหล่ะ เพราะซอมบี้ทั้งเมืองพอได้ยินเสียงกลองมันก็วิ่งมาตามเสียง วิ่งมาที่แฟลตที่ตัวเอกแอบซ่อนตัวอยู่ เขาเริ่มเรียนรู้สิ่งต่างๆจาก “ความเงียบ และความเดียวดาย ที่ต้องอยู่คนเดียวภายในโลกแห่งนี้” หลายๆสิ่งหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นน้องแมวที่วิ่งเล่นอยู่กลางดงซอมบี้, หญิงสาวปริศนาที่พยายามบุกเข้ามาภายในแฟลตช่วงดึกดื่นค่ำคืน และจุดจบอันแสนร้ายกาจที่ Director: Dominique Rocher มอบให้คนดูได้ตราตรึงในฉากจบ….  “เพราะความเงียบ และความเดียวดาย คือ ความตายที่ทรมานยิ่งกว่าการฆ่าตัวตายใดใด!!”

ใช่….   หนังเรื่องนี้มันเสมือนเมืองๆหนึ่งที่เพิ่งโดนพายุทอร์นาโดพักถล่มอย่างไม่เหลือซากชิ้นดีในค่ำคืนหนึ่ง พอรุ่งเช้า เราก็ได้เห็นซากปรักหักพังดาษดื่นตามรายทางเรื่อยมา  เมื่อวานพายุมันไม่มีท่าทีว่าจะมาจริงๆ  แล้วจู่ๆมันก็มา มันรุนแรงแบบจัดเต็ม ทั้งคืน  พอรุ่งเช้า….มันกลับเงียบสงบ  ไร้สิ้นความหวัง  ไม่เหลืออะไรเลยจริงๆ…..

The Night Eats the World / 2018 หนังมีความยาวประมาณ 93 นาที เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ปี พ.ศ. 2561 (ในฝรั่งเศส) โดยพากย์ด้วยภาษา Norwegian เเละ English เพราะในหนังเรื่องนี้มีฉากรุนแรง เช่น ฉากที่ตัวเอกใช้ปืนลูกซองยิงซอมบี้จนเลือดกระจายอวัยวะกระจุย, ฉากคนในแฟลตใช้ปืนลูกซองปลิดชีพ-ยิงศีรษะตนเองเพื่อฆ่าตัวตาย  จึงไม่แปลกที่หนังเรื่องนี้ได้เรต 18+ ในบางประเทศ นำแสดงโดย Anders Danielsen Lie, Golshifteh Farahani และ Denis Lavant

****** อนึ่ง เรื่องนี้ผมชอบเป็นการส่วนตัวจริงๆนะครับ ให้ 10 / 10 คะแนนเลยจ้า สำหรับสาวกหนังสายซอมบี้ เรื่องนี้ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง! หนังยอดเยี่ยมสมราคาครับ (ความเห็นส่วนตัวล้วนๆนะเออ)