Box Room / 2014 : เด็กชายวัยแรกรุ่นคนหนึ่งเลือกที่จะมีเพศสัมพันธ์กับกำเเพงห้องนอนของเขาทุกวัน เเล้วก็เรียกมันว่า “เมีย”

หนังเลือกใช้คำโปรยบนใบปิดว่า…. You never forget your first tims.
(คำโปรยเนี่ยๆแปลกันเอาเองนะเออ  555+ )


เรื่องนี้เป็นหนังสั้นสยองขวัญในประเภท Genres: Short | Drama | Horror | Sci-Fi ความยาวประมาณ 16 นาทีจากประเทศ Ireland (พากย์ English) โดย Director: Michael Lathrop และได้ David Lester Mooney (มาช่วยในส่วนของงานด้าน Co-Writer ให้) ที่ซึ่งหนังเรื่องนี้เองเล่าลือกันอย่างหนาหูในระหว่างการฉายเผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ 8 มีนาคม ปี 2014 (ในประเทศสหรัฐอเมริกา) ว่ามันสามารถสร้างความตราตรึงแด่ผู้ชมและทำให้คนดูเกิดอาการเหวอแตก-จิตตกไปพักใหญ่ๆมาแล้ว!!

ภายใน Box Room / 2014 หนังนำเสนอเรื่องราวการใช้ชีวิตตามปกติธรรมดาของครอบครัวๆหนึ่งที่อาศัยอยู่ภายในอพาร์ตเมนต์ย่านใจกลางเมืองใหญ่ในประเทศ Ireland  ครอบครัวนี้ประกอบด้วยคุณแม่ยังสาว Jerry's mother (รับบทโดย Erika McGann) และลูกชายวัยแรกรุ่น Jerry (รับบทโดย David Joseph Magee) ที่วันดีคืนดีเจ้าลูกชายเกิดเซ็งที่คุณแม่ไม่ค่อยเอาใจใส่ตัวเองเสียเท่าไหร่เหมือนสมัยก่อน แต่กลับไปมอบความรักเกือบทั้งหมดให้กับว่าที่พ่อใหม่ Killian Coyle (ใช้ชื่อจริงในการแสดง) ทุกคืน ทุกวันที่ลูกเฝ้ามองผ่านสายตาคู่น้อยๆ คุณแม่เอาแต่หลงรักว่าที่ผัวใหม่แทบทุกลมหายใจ  จวบจนวันหนึ่งเจ้าลูกชายเกิดอาการเซ็งแบบสุดๆ เลยจัดการขังตัวเองไว้ภายในห้องนอน สักพักก็เหลือบไปเห็นน้ำเลือดสีแดงเข้มกำลังไหลหยดออกมาจากรูของเกาแพงห้องนอนอย่างเชื่องช้า เมื่อเกิดความสงสัยขึ้นเขาจึงพยายามลอกวอลเปเปอร์บนกำแพงออกจนหมด แล้วพบว่าตรงใจกลางของกำแพงห้องที่เขาใช้อาศัยหลับนอนทุกคืนนี้เองมีสิ่งมีชีวิตประหลาดแอบซ่อนกายอยู่ภายในอย่างชวนสุดขนหัวลุก   แต่พอ Jerry เริ่มจ้องมองมันนานๆเข้า เขากลับหลงใหลมันอย่างแปลกประหลาด เขาเริ่มชื่นชอบกลิ่นของมันจนอดใจไว้ไม่ไหว   Jerry จึงถอดกางเองออกแล้วก็เริ่มมีเพศสัมพันธ์กับกำเเพงห้องนอนของเขา  ในทุกๆวัน  เขาเรียกสิ่งที่แอบซ่อนอยู่ภายในกำแพงว่า “เมีย”  จนในที่สุดหลายเดือนผ่านไป “เมีย” ก็เกิดอาการ “แพ้ท้อง”…… (????)

****** ความเห็นส่วนตัวของผู้รีวิว
ตอนได้ตัวเต็มของหนังเรื่องนี้มาผมก็ไม่คิดอะไรมากนะ แค่คิดว่าจะเปิดมันดูเพื่อฆ่าเวลาก่อนนอนดูบอลช่วงฟุตบอลโลกปี 2018 ที่รัสเซีย  แต่….ขอบอกว่าพอดูหนังเรื่องนี้จบเนี่ยๆ  ผมเกิดอาการสะดุ้งเฮื้อก แล้วก็เกิดอาการเหวอแตก-จิตตกไปพักใหญ่ๆ ไม่คิดเลยจริงๆว่าผู้กำกับ Michael Lathrop จะกล้าใส่ฉากบางฉากลงไป เช่น ฉากที่ตัวเอกของเรื่องอย่าง Jerry จ้องมองสิ่งลึกลับที่อาศัยอยู่ภายในกำแพงห้องของเขา  ผมขอเรียกมันว่า…. “เจ้าสิ่งนั้น”   โอ้ยยย….ผู้กำกับกล้ามากนะที่กล้าสร้าง “เจ้าสิ่งนั้น” ขึ้นมาซะชนิดเหมือนของจริงสุดๆ  แถมยังกล้ากดแช่กล้องแบบยาวๆให้คนดูได้เห็นถึงหยาดโลหิตที่กำลังไหลหลั่งพรั่งพรูออกมาอีก นี่มันหนังชวนโดนแบนชัดๆ(555+)  ฉากที่ชวนพะอืดพะอมแบบบอกไม่ถูกอีกฉากก็คือ ตอนที่หนุ่มน้อย Jerry อดใจไม่ไหว ลงมือซำ “เจ้าสิ่งนั้น” จนมันท้องแล้วแม่ก็แอบเปิดประตูห้องเข้ามาดู เหอะ เหอะ  #นรกเลยแตก ณ บัดนาว!!

เรื่องนี้เป็นหนังสั้นสยองขวัญที่ดีมากจริงๆเลยล่ะครับ หนังสอนอะไรให้คนดูได้หลายอย่างจริงๆ  แม้นส่วนใหญ่คนดูร้อยละ 95% ไม่สามารถตีความออกว่าผู้กำกับพยายามสื่อถึงอะไร แต่โดยภาพรวมหนัง OK ในทุกๆจุด  “เพราะภาพที่เห็นในหนังไม่ใช่ภาพที่เห็นจริงๆ แต่ภาพเหล่านั้นต้องอาศัยการตีความล้วนๆ” เรื่องนี้ขอให้ 10 / 10 คะแนนครับ หนังดี ภาพสวย งานเอฟเฟคเยี่ยมยอด  ถ้าคนดูตีความสักนิดนะ แล้วคุณจะรักมันครับ….


****** ตรงนี้สปอยล์ (Spoil) สำหรับคนที่ดูจบแล้วแต่ยังเกิดอาการ “งง” อยู่นะเออ

หนังเรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวของแม่ลูกคู่หนึ่งที่อาศัยอยู่ภายในอพาร์ตเมนต์ย่านใจกลางเมืองใหญ่ในประเทศ Ireland

ผู้เขียนเข้าใจเอาเองว่าครอบครัวนี้สูญเสียหัวหน้าครอบครัว(พ่อ) ไปจากเหตุการณ์บางอย่าง

แม่(ยังสาว)จึงรู้สึกขาดความอบอุ่น จึงพยายามหาใครสักคน(ผู้ชายคนใหม่)เพื่อเข้ามาเติมเต็มความรักความอบอุ่นในครอบครัว

ฝ่ายลูก พอเห็นแม่มีพ่อใหม่ จึงเกิดความกังวล ไม่สบายใจ พยายามขังตัวเองอยู่แต่ภายในห้องนอนของเขา จนในที่สุดลูกชายก็ได้ไปพบเข้ากับกำแพงที่มีเลือดแดงๆเยิ้ม ไหลรินออกมาจากรูบนกำแพง

รูบนกำแพงที่มีเลือดไหลออกมา  แทนค่าคือหญิงสาววัยแรกรุ่นที่อาศัยอยู่ภายในอพาร์ตเมนต์เดียวกันกับ Jerry คือนางเริ่มเป็นสาว(เริ่มมีประจำเดือนแรก)

เพราะชายไม่เหมือนหญิง และเพราะหญิงไม่เหมือนชาย ประกอบกับการขาดความอบอุ่นภายในครอบครัว ทำให้หนุ่มน้อยวัยแรกรุ่นอย่าง Jerry เริ่มโหยหาความรักจากหญิงอื่นที่ไม่ใช้มารดา(แม่)ของตนเองเป็นครั้งแรก เขาเริ่มศึกษารูปกายของเพศตรงข้ามแล้วก็ลุ่มหลงมันประหนึ่ง “น้ำมันอยู่ใกล้เปลวไฟ” จนในที่สุดคนทั้งคู่(หญิง-ชาย)ก็เริ่มมีอะไรต่อกัน คือแสดงด้วยฉากที่ Jerry มีเพศสัมพันธ์กับกำเเพงห้องนอนของเขาในทุกๆวันนั่นเอง

เรื่องที่เขามีเพศสัมพันธ์กับกำเเพงห้องนอน(หรือหญิงสาว)นี้เองถูกปิดเป็นความลับระหว่าง Jerry กับเธอ ยาวนานหลายเดือน

เพราะไม่มีประสบการณ์  เขาและเธอจึงไม่มีการป้องกัน  อายุครรภ์และทารกในครรภ์จึงโตขึ้นเรื่อยๆ (สังเกตได้จากภาพในหนังที่กำแพงเริ่มปล่อยบางสิ่งบางอย่างออกมาจากในรูกำแพง / รูกำแพง กำหนดค่าเอาไว้ว่าคือ อวัยวะเพศหญิง)

วันหนึ่งแม่ของ Jerry เกิดสงสัยว่าทำไมลูกหนีโรงเรียนกลับมาอพาร์ตเมนต์บ่อยๆ จึงเปิดประตูห้องนอนของลูกออกดู ภาพที่เห็นคือลูกชายกำลังทำคลอดให้กับสิ่งมีชีวิตประหลาดที่อาศัยอยู่ภายในกำแพง (ซึ่งภาพจริงๆน่าจะเป็นเด็กสาววัยแรกรุ่นที่เพิ่งคลอดลูกของเธอกับ Jerry ออกมา)

แม่มองเห็นเด็กสาวนางนั้นเป็นดั่ง “ปีศาจร้าย” หรือ “สัตว์ประหลาด” ที่แอบมาพรากความรัก ความหวังดี และอนาคตของลูกชายของคนเป็นแม่ไปจนหมดสิ้น หนำซ้ำแม่ยังมองเด็กที่เกิดใหม่เพิ่งลืมตาออกมาดูโลกครั้งแรก(ลูกของเด็กสาวกับ Jerry)ว่าเป็นประหนึ่ง “มารหัวขน” (สังเกตพอกล้องซูมไปที่ตัวเด็กทารก เราจะเห็นเป็นภาพของปีศาจตัวน้อยๆกำลังร้องไห้อย่างน่ากลัวในสายตาคนเป็นแม่)

แม้นจะเป็นเพศเดียวกันแต่แม่ก็รับไม่ได้กับการกระทำของเจ้าลูกชายในครั้งนี้(ทำผู้หญิงท้องในวัยเรียน) แม่ใช้เท้ากระทืบเด็กทารกจนตาย แล้วชี้หน้าด่าทอกำแพง ประมาณว่าเธอนี่แหล่ะที่เป็นฝ่ายผิดที่มายั่วลูกชายของฉันจนเสียคน เธอนั่นแหล่ะผิด….นังผู้หญิงชั่ว นังสำส่อน สังโสเภณี!!

แล้วแม่ก็เลือกพาลูกชาย(Jerry)ย้ายออกไปอยู่ที่อื่น ปล่อยให้กำแพงห้องนอนของ Jerry แตกร้าวเสียหายอย่างหนัก (ภาพนี้แสดงให้เห็นถึงความร้าวฉานของครอบครัวที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่แต่ถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยจากแม่ของสามี ซึ่งกลายมาเป็นผู้พรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเธอจนหมดสิ้น….)

ฉากจบ….เป็นภาพของแม่ที่ลากตัวเจ้าลูกชาย Jerry ขึ้นรถยนต์ แล้วก็ย้ายออกไปจากอพาร์ตเมนต์แห่งนี้ เหลือทิ้งไว้เพียงเด็กสาววัยแรกรุ่นใจแตก ที่ต้องออกจากโรงเรียนมาเลี้ยงลูกน้อยเพียงลำพัง….

จริงๆมุมมองจากหนังเรื่องนี้ Director: Michael Lathrop น่าจะต้องการประชดประชันการเลี้ยงดูบุตรหลานของครอบครัวคน Ireland ในยุคสมัยใหม่ ที่ดูเหมือนการผลักปัญหา “การท้อง-แท้ง-และปัญหาคุณแม่วัยใส” ให้กลายเป็นภาระของครอบครัวฝ่ายหญิงเพียงฝ่ายเดียว(รึเปล่า?) หนังเรื่องนี้คนดูจึงต้องอาศัยการตีความกันพอสมควรครับ….  จริง หรือไม่จริง,  เชื่อ หรือไม่เชื่อ, ถูก หรือผิด  อย่างไร  คนดูนั่นแหล่ะจะเป็นผู้ตัดสิน….