Bathory ตระกูลบาปเลือดจารึก : Elizabeth Bathory   Share

ไม่รู้ว่าใครเคยอ่านไหม ถ้าเคยแล้วต้องขอโทษที่รกกระทู้

ใครเคยดู stay alive อาจจะสงสัยว่า Bloody countess ในเกมส์(ในหนัง) นั้นมีตัวตนจริงหรือไม่
คำตอบก็คือมีตัวตนจริง ชื่อ Elizabeth Bathory และยังถูกบันทึกว่าเป็นฆาตรกรหญิงที่ฆ่าคนมากที่สุดใ นโลกอีกด้วย และยังเป็นเชื้อพระวงศ์อีกด้วย

Elizabeth Báthory อลิซาเบธ บาโธรี่ เป็นหญิงสาวที่เกิด ในตระกูลบาโธรี่ (Báthory Family) อันเป็นตระกูลขุนนางชั้นสูงของฮังการี่ ( Hungary ) และสืบสายมาจากตระกูลแฮบสเบิร์กอันเก่าแก่ของยุโรป ตระกูลบาโธรี่ร่ำรวยและมีอำนาจมากมาย ปกครองแคว้นทรานซิลวาเนียมาหลายต่อหลายยุคสมัย หากก็เป็นธรรมดาของตระกูลเก่าแก่ที่มีการแต่งงานกันเองในหมู่เครือญาติเพื่อ รักษา ทรัพย์สมบัติและอำนาจเอาไว้ ซึ่งนั้นทำให้เกิดความ บกพร่องทางพันธุ์กรรมขึ้น และคาดว่าเธอเองก็เช่นกัน คือเธอมีอาการป่วยเป็นโรคปวดหัวเรื้อรัง มีคำกล่าวว่า " มีอยู่ครั้งหนึ่ง อลิ ซาเบธ บาโธรี่ เกิดปวดหัวอย่างหนัก ซึ่งทำให้เธอควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำให้เธอกัดเนื้อของสาวรับใช้จนขาด ทำให้สวยใช้ร้องด้วยความเจ็บปวด และเป็นที่น่าประหลาดใจคือ อลิซาเบธ บาโธรี่ เกิดหายปวดหัวในทันที " และนั้นเป็นการเปิด หน้าประวัติศาสตร์ของ ฆาตกรหญิง ที่ อำมหิตที่สุดในโลก ด้วยจำนวนเหยื่อที่คาดว่าสูงถึง 650 ศพ

ประวัิติชีวิต และข้อมูลส่วนตัว ของ อลิซาเบธ บาโธรี่ ฆาตกรหญิง ที่ อำมหิตที่สุดในโลก
* 1560 เธอเกิดวันที่ 7 สิงหาคม
* 1614 ตายเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม รวมอายุได้ 54 ปี 14 วัน
* เธอ เป็นหญิงสาวที่มีความฉลาด มีความรู้ทั้งภาษา ลาติน( Latin ) ภาษาเยอรมัน( German ) และภาษากรีต ( Greek ) และสนใจในเรื่องทางวิทยาศาสตร์ และดาราศาสตร์ ( Astronomy ) ซึ่งผิดจากหญิงสาวในยุคสมัยนั้น
* อุปนิสัย เป็นคนเหี้ยมโหด เป็นพวกชอบใช้ความรุนแรง ( Sadistic ) อารมณ์ไม่แน่นอนขึ้นลง ผิดกับหน้าตาที่สวยงามของเธอ
* เธอได้รับฉายาว่า ชายาโลหิต ( Blood Countess ) และ ราชินี ผีดูดเลือด ( Countess Dracula )
* 1575 เมื่ออายุได้ 15 ปี เธอได้หมั้นหมาย และต่อมาได้แต่งงาน กับ ท่านเคานท์ฟีเรนซ์ นาดาสดี้ ( Ferenc Nádasdy ) ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเธอ ที่อายุมากกว่าเธอ 11 ปี ในวันที่ 8 พฤษภาคม 1575 โดยมีแขกมาร่วมงานกว่า 4500 คน ทั้งสองย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ที่ปราสาทเซติซ Čachtice Castle ใช้ชีวิตแต่งงานด้วยกัน 29 ปี
* 1578 หลังแต่งงาน เนื่องจาก ท่านท่านเคานท์ฟีเรนซ์ นาดาสดี้ ( Ferenc Nádasdy ) มักจะต้องออกไปรบกับพวก Ottomans เป็นระยะเวลานาน ทิ้งให้เธออยู่เพียงลำพัง และอาการปวดหัวของเธอก็ กำเริบบ่อย และรุนเแรงขึ้น ทำให้เธอยิ่ง สนุกกับการ ทรมานสวยใช้ ด้วยวิธีที่เหี้ยมโหดขึ้นเรื่อย เช่น การปักเข็มเข้าที่ปลายเล็บ การทาน้ำผึ้งลงบนตัวแล้วปล่อยไว้ในห้องที่มี รังมด มากมาย เพื่อให้ มด รุมกัด ยุ่งเกี่ยวกับคาถา มนต์ดำ และคบชู้สู่ชาย
* 1585 เธอให้กำเนิดลูกสาวชื่อว่า แอนนา และต่อมาให้กำเนิดบุตรสาว และบุตรชายชื่อว่า Ursula และ Andras แต่ทั้งคู่เสียชีวิตในเวลาไม่นานนัก
* 1598 เธอให้กำเนิดบุตรอีก 2 คนคือ Katherine และ Paul
* 1604 ท่านท่านเคานท์ฟีเรนซ์ นาดาสดี้ สามีของเธอเสียชีวิต ด้วยวัย 47 ปี ในสนามรบ ทิ้งทรัพย์สมบัติ และอำนาจของตระกลูไว้ในมือของ อลิซาเบธ บาโธรี่ และันั้นยิ่งทำให้เธอยิ่ง โหดเหี้ยม อำมหิต ยิ่งขึ้น และเพียงไม่กี่วันหลังจาก อลิซาเบธ บาโธรี่ ได้ข่าวการเสียชีวิตของสามี แม่สามี ซึ่งมีปัญหา กับ อลิซาเบธ ก็ลาโลกในเวลาไกล้เคียงกัน เป็นเป็นที่ลือกันว่า เกิดจากการที่ อลิซาเบธ วางยาพิษฆ่า แม่สามีของตัวเอง เป็นการเปิดฉากตำนาน สุดสยอง ฆาตกรหญิง ที่ อำมหิตที่สุดในโลก ณ ที่นี้


ตำนานความโหดเหี้ยมของ อลิซาเบธ บาโธรี่ ฆาตกรหญิง ที่ อำมหิตที่สุดในโลก
Blood stories ตำนานเลือด หลังจากการเสียชีวิตของสามี เธอก็เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในอาณาจักรเล็กๆ ของเธอ แต่นั้นยังไม่ใช้ทั้งหมดที่เธอต้องการ เธอยังคงต้องการความสวยอันเป็นนิรันดร์ เธอจึงมีการเชิญแม่มด หมอผีจำนวนมากมาปรุงตาอายุวัฒนะ แต่ไม่มียาขนานใดจะสามารถหยุดยั่งความแก่ชราของเธอลงได้ มีอยู่วันหนึ่งสายใช้ที่มีหน้าที่ดูแลเธอเกิดหวีผมของ เธอขาดมีหลายเส้น เธอโกรษมากจึงใช้เชิงเทียนที่อยู่ใกล้มือกระหน่ำตีสาวใช้จนขาดใจตาย แต่ก็ยังไม่ยอมหยุด เธอยังคงกระหน่ำตีจนเหนื่อยอ่อนจึงได้หยุด ความโกรษเกี้ยวลง และเธอก็พบว่ามีเลือดจำนวนมากกระเด็นมาเปราะเปื้ยนตามเนื้อตัว เป็นจำนวนมาก และเมื่อเธอได้จึงระคราบเลือดนั้นออกกับพบว่า ผิวพรรรณบริเวณดังกล่าวกับดูอิ่มเอิบ เต่งตึงมีน้ำมีนวลขึ้น จึงทำให้เธอพบว่า ยาที่จะคงความสวยอันเป็นนิรันดร์ให้เกิดเธอนั้ินคือ เลือดสดๆของหญิงสาวพรมจรรย์นั้นเอง wowboom

* เธอ จึงเริ่มรวบรวมหญิงสาวจากดินแดนของเธอ โดยนำเสื้อผ้าไปแลกมา หญิงสาวและพ่อแม่ต่างดีใจที่จะได้เข้าไปใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในปราสาท แต่พวกเธอเข้าใจผิด เมื่อผ่านเข้าประตูปราสาทไม่มีหญิงสาวรายใดได้หวนกลับออกมาอีกเป็นครั้งที่ สอง ต่างจบชีวิต ด้วยการ ทรามาน ต่างๆ เพื่อบำบัดอาการปวดศีรษะของ เธอ และวาระสุดท้ายคือการถูกรีดเลือดสดๆ ออกมาเพื่อประทินความงามแก่ อลิซาเบธ บาโธรี่

มีบันทึกกล่าวว่า มีบางครั้งที่เธอจัดงานเลี้ยงอย่างหรูหรา และเชิญเด็กสาวหน้าตาดี 60 คน มาร่วมงานเลี้ยง และงานเลี้ยงนั้นก็จบลงด้วยการที่ทหารกรูกันเข้ามา รวมฆ่า รุมข่มขืน เด็กสาวเหล่านั้น แล้วตัดชิ้นส่วนร่างกาย ตัดหัว โยนลงอ่างอาบน้ำของ อลิซาเบธ บาโธรี่ แต่เนื่องจากอ่างโลหิตนั้นเต็มช้าไม่ทันใจเธอ เธอจึงใช้การปาดคอเหยื่อ ให้เลือดสาดกระเด็นมาอาบผิวกายเธอ ประหนึ่งเป็นฝักบัวโลหิต แต่เนื่องจากเสียงร้องโหยหวนทำให้เธอรำคาญ เ็ด็กสาวคนต่อไปจึงถูกเย็บปาก เพื่อป้องกันการร้องให้เธอรำคาญใจเธอ

ด้วยความคิดอันวิตถาร ของ อลิซาเบธ บาโธรี่ ยังไม่หยุดยั้ง เธอได้ตามตัวช่างมาจากเยอรมันเพื่อสร้างเครื่องมือ ที่มีชื่อว่า สาวพรหมจรรย์เหล็ก( Iron Maiden ) โดยเป็นหีบโลหะวางตั้ง มีบานเปิดด้านหน้า ขนาดเท่าคนจริง ภายในมีเหล็กแหลมยาวจำนวนมาก ใช้สำหรับทิ่มแทงร่างกายของเหยื่อ ให้เลือดค่อยๆไหลออกมา จากแผลแล้วไหลออกที่รูด้านล่างของหีบ ที่ต่อเข้ามายังอ่างอาบโลหิตของ เธอ

# 1610 ธันวาคม ด้วยความเลว และชั่วร้ายทั่วไปที่มิอาจปกปิดได้มิด เมื่อเรื่องถึงยังราชสำนัก พระเจ้าแมทเทียสที่ 2 ( King Mathias II ) จึงได้ส่ลอร์ด ชอร์น เธอร์โซ ( Lord Palatine George Thurzo ) ซึ่งเป็นญาติกับ อลิซาเบธ บาโธรี่ มาสือสวนเรื่องนี้ เมื่อท่านลอร์ด ไปได้ลงไปยังห้องใต้ดิน ก็พบกับภาพอัน สุดสยอง และแสนอนาถเป็นอย่างยิ่ง
# 1611 มกราคม เธอถูกตัดสิ้นมีความผิดจริง แต่เนื่องจากด้วยอิทธิพลของตระกูลบาโธรี่ เธอจึงได้รับระเว้นโทษตาย แต่บรรดาผู้สมรู้ร่วมคิดของ เธอต่างถูกตัดสินประหารชีวิตโดยการเผาทั้งเป็น
# 1614 อลิ ซาเบธ บาโธรี่ ถูกโทษให้คุมขังไว้ในปราสาทของเธอ ในหอคอย ที่หน้าต่าง และประตูถูกปิดตาย ให้หลือเพียงช่องเล็กเพื่อส่งอาหาร และเครื่องดืมแก่เธอเท่านั้น และในวันที่ 21 สิงหาคม เธอได้เสียชีวิตลง รวมอายุได้ 54 ปี 14 วัน

สุดท้ายสิ่งที่เธอแสวงหา ซึ่งความงามอันเป็นนิรันดร์ กับกลายเป็นความน่าเกลียดอันเป็นนิรันดร์ ที่จะถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ด้วยตัวเลขของเหยื่อที่ถูกเธอสังหารกว่า 650 ชีวิต จึงนำเธอไปสู่ ฆาตกรหญิง ที่ อำมหิตที่สุดในโลก ซึ่งยากยิ่งจะหาใครมาเทียบเคียง


(ปราสาทของ elizabeth ที่ยังมีอยู่จนถึงทุกวันนี้)
ตระกูลบาโธรี่ ตัดสินใจขัง เอลิซาเบธ ไว้ในห้องอิฐปราสาทของเธอเอง
เปิดเพียงแค่ช่องเล็กนิดเดียว ที่พอส่งข้าวส่งน้ำให้ได้เท่านั้น

เธอมีชีวิตอยู่แบบนั้นได้ 4 ปี และขาดใจตายในที่สุด



(ปราสาทของ elizabeth ....มีใครสนใจอยากไปเดินทัวร์ไหมว่า)


หลังจากสิ้นสุดตระกูล Bathory ทางประเทศฮังการี่ สั่งห้ามพูดถึงเรื่องของ Elizabeth bathory
200ปี หากได้ยินจะต้องโทษ หรือจำคุก
(แต่สุดท้ายแล้ว ตอนนี้ก็ยังมีผู้หญิงคนนึงที่สืบเชื้อสายตรงจาก ตระกูล Bathory ...ซึ่งได้รับการยืนยันตัวตนแล้วว่า เป็นสายเลือด Bathory จริง และยังมีชีวิตอยู่ ณ ตอนนี้ )

ปล......พอดิ้นรนหาเรื่องนี้มาดูจริงๆคาดหวังจะเจอฉากที่นึกไว้กลับไม่มี กลายเป็นเหมือนหนัง Drama นึกขำตัวเองที่อุตส่าหามาดูความคิดอันวิตถาร ของ อลิซาเบธ บาโธรี่ ยังไม่หยุดยั้ง เธอได้ตามตัวช่างมาจากเยอรมันเพื่อสร้างเครื่องมือ ที่มีชื่อว่า สาวพรหมจรรย์เหล็ก( Iron Maiden ) โดยเป็นหีบโลหะวางตั้ง มีบานเปิดด้านหน้า ขนาดเท่าคนจริง ภายในมีเหล็กแหลมยาวจำนวนมาก ใช้สำหรับทิ่มแทงร่างกายของเหยื่อ ให้เลือดค่อยๆไหลออกมา จากแผลแล้วไหลออกที่รูด้านล่างของหีบ ที่ต่อเข้ามายังอ่างอาบโลหิตของ เธอ


และเพราะElizabeth Bathory ถือว่าเป็นฆาตกรหญิง ที่ อำมหิตที่สุดในโลก






ความคิดเห็นที่ 1

ลองหาเรื่องcountess Dracula มาดูที่Ingrid Pitt เล่นนะ

แต่ไม่ค่อยมีฉากโหดๆมากเท่าไร ส่วนสาเหตุที่เธอมีอาการปวดหัวเรื้อรังน่าจะมีส่วนมาจากกรรมพันธุ์ที่ ครอบครัวของเธอแต่งงานในสายเลือดเดียวกัน

แต่ว่าเรื่องในประวัติศาสตร์หลายเรื่องบางครั้งจะเล่าเกินความจริงไปมากเท่าไรไม่รู้

เพราะนักประวัติศาสตร์บางคนก็ว่าเธอนั้นเป็นดั่งหญิงเหล็กเพราะพูด อ่าน เขียน ได้ถึง5ภาษา ซึ่งไม่ใช่เรื่องธรรมดาของคนสมัยนั้น เำำพราะขนาดกษัตริย์บางพระองค์เองยังอ่านหนังสือไม่ออก หรือเขียนไม่ได้ก็มี แถมญาติของเธอยังได้เป็นกษัตริย์อีก จึงทำให้ตระกูลบาโธรี่มีอำนาจมาก เห็นได้จาการลงโทษเธอ ที่เกรงอำนาจจากตระกูลของเธอ

เห็นได้ชัดว่าหลังจากแต่งงานกับเฟเรค นาเดสดี้ เธอยังคงใช้นามสกุลตัวเองอยู่ บางคนก็บอกว่าสามีของเธอก็ร่วมทรมานสาวใช้ในครั้งนี้ด้วย

มือประวัติศาสตร์อยู่ในเงื้อมือผู้ชนะหรือฝ่ายตรงข้าม เราไม่มีทางแน่ใจได้เลยว่าสิ่งที่เธอทำมันร้ายแรงจริงอย่างที่มีบันทึกไว้หรือเปล่า หรือ จะเป็นเหมือนในกรณีLucrezia Borgia


ที่ถูกหลายๆคนกล่าวหาว่าเป็นชู้กับCesare Borgia พี่ชายตนเองจนท้องแล้วย้อมแมวมาตั้งกับหลายชายเหลือเกิน ซ้ำร้ายโดนกล่าวหาว่าสมคบกับครอบครัวฆ่าผัวตัวเอง เพื่อขจัดเสี้ยนหนามทางการเมือง วางยาพิษคันตาเรลล่าลงในอาหารให้ศัตรูกิน ไม่รู้ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นจริงแค่ไหน

รู้ว่าเธอโชคร้ายที่เกิดมาอยู่ในตระกูลที่ทรงอำนาจทางการเมือง และเป็นที่เกลียดชังของหลายฝ่าย

ปอลิ่ง เราชอบฟังเพลงของวงCradle of filth อัลบั้มcruelty and the beast เป็นการพูดถึงElizabeth Bathory ทั้งอัลบั้มโดยผู้พากย์เสียง คือ ป้าIngrid Pittนี้เอง

ความคิดเห็นที่ 2

นอกเรื่องนิดเคยฟังวงนี้เหมือนกันลองหา MV เพลง Babylon A.D.ดู เห็นแล้วคิดถึง SALO ยังไงไม่รุ้แหะ

ความคิดเห็นที่ 3

เคยอ่านเรื่องนี้แบบเป็นการ์ตูน แฮ่ๆ แล้วต่อมาก็มาอ่านเจอแบบเป็นประวัติศาสตร์บอกต่อกันมาๆๆๆ

ผู้หญิงทำได้ทุกอย่างเพื่อความสวย

มันยังเป็นความจริงมาจนทุกวันนี้แหละ

ความคิดเห็นที่ 4

ที่ดูเรื่อง Bathory

คิดว่าเค้าต้องการสื่อในมุมของประวัติศาสตร์ + การคาดการณ์

ดูแล้วให้คิดไปได้ว่าที่จริงการที่จะมีผู้หญิงที่กล้าท้าทายอำนาจผู้ชายเป็นเรื่องยาก

และแถมมีความรู้+อำนาจ

หากมองในยุคที่ ญ ถูกกดขี่ ใครแตกต่างคือแม่มด

เธอคงโชคร้ายที่เกิดมาในยุคนั้นแน่นอน



หากเธอเกิดมาตอนนี้คงได้เป็นนายกหญิงเป็นได้



แต่ดูๆไปอาการเหี้ยมโหดก็เกิดขึ้นทุกราชสำนัก

เหมือนเป็นการตักเตือน+เด็ดขาด



เห้อ....เราแค่มองตามหนัง

และคิดแบบสิทธิสตรีเท่านั้น

ความคิดเห็นที่ 5

เคยตามอ่านเรื่องคร่าวๆของเธอเหมือนกัน น่าสนใจดีนะ เคยเห็นมีหนังเกี่ยวกับเธอด้วย รู้สึกว่าจะถูกทำเป็นหนังหลายเวอร์ชั่นเหมือนกัน

ความคิดเห็นที่ 6

น่าสนใจ น่าสนใจ ...


Function Used time : 0:0:0:27