****** เป็นหนังสยองขวัญยอดเยี่ยมการันตี 6.8 / 10 คะแนน by IMDB : The Story of Southern Islet / 2020 (เล่าขานตำนาน “ร่างทรง” เวอร์ชั่นมาเลเซีย : อดีตรำลึกกับห้วงรัตติกาลสัมภเวสีแฝงร่าง) 😊

“เป็นหนังสยองขวัญที่ว่าด้วยเรื่องคตินิยมวิทยา, อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม, ฆราวาสนิยม, การผสมผสานของรากพหุกระบวนทัศน์, เทววิทยาแบบท้องถิ่นศึกษา, แนวนโยบายภูมิปุตรา, และเรื่องราวเหนือธรรมชาติที่เป็นภาพสะท้อนหมุนอยู่รอบๆตัวเรา….” (ผู้เขียน)

The Story of Southern Islet / 2020 หรืออีกชื่อหนึ่งคือ 南巫 / 2020 เรื่องนี้ถือเป็นหนังสยองขวัญชั้นดีเลิศเรื่องหนึ่งจากประเทศมาเลเซีย หนังสาย Genres: Drama-Fantasy(Horror) ความยาว 1.45 ชั่วโมง บทหนังและกำกับของ Director: Keat Aun Chong โดยหนังพากย์ภาษาจีนฮกเกี้ยน มีฝังซับจีนกลาง และซับภาษาอังกฤษ ว่ากันว่า The Story of Southern Islet / 2020 มันถูกสร้างเป็นหนังสยองขวัญโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากพื้นฐานความทรงจำหลักในวัยเด็กของผู้กำกับ Keat Aun Chong เอง

The Story of Southern Islet / 2020 (ร่างทรงเวอร์ชั่นมาเลเซีย) หนังบอกเล่าเรื่องราวระหว่างปี ค.ศ.1980-1987 ที่ Kerat หมู่บ้านเล็กๆแถวเชิงเขา Gunung Keriang ซึ่งตั้งอยู่บนพรมแดนระหว่างไทยและมาเลเซีย หนังโฟกัสลงไปที่ครอบครัวชาวมาเลเซียเชื้อสายจีนครอบครัวหนึ่ง ประกอบด้วย สามี “Cheong” (รับบทโดย Season Chee) กับภรรยา “Yan” (รับบทโดย Jojo Goh) และลูกชายอีกสองคน(วัยประมาณ 10 ขวบ) ครอบครัวนี้ประกอบอาชีพขายกุ้งแห้งและปลาแห้งที่จับได้ตามธรรมชาติในแอ่งน้ำตรงท้ายหมู่บ้าน โดยหลังจากที่จับกุ้งและปลาได้แล้วก็จะนำมาทำความสะอาด ตากแดดให้แห้ง แล้วนำไปขายที่ตลาดท้องถิ่นในหมู่บ้าน

จวบจนวันหนึ่ง Cheong หัวหน้าครอบครัวไปตกใจที่มีงูเลื้อยผ่านศาลพระภูมิตรงหน้าบ้าน เขาจึงหยิบไม้วิ่งไล่ตีมันจนทำให้ประตูของเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามเสียหาย ตกหัวค่ำ เพื่อนบ้านไม่พอใจเป็นอย่างมากจึงเดินข้ามฝั่งมาเพื่อหาเรื่อง และนับจากที่เขามีปัญหากับเพื่อนบ้าน หลังจากนั้นไม่นาน ระหว่างออกหากุ้งหาปลาตรงบริเวณท้ายหมู่บ้านตามปกติ Cheong ก็เป็นลมหมดสติ และล้มป่วยด้วยอาการองโรคประหลาด เขาหมดเรี่ยวหมดแรง อาเจียรออกมาเป็นเลือดและตะปูขนาดเล็กมีสนิมเขรอะหลุดออกมาจากในลำคอของเขา แม้นฝ่ายภรรยาจะพาไปรักษาด้วยการแพทย์สมัยปัจจุบัน แต่คุณหมอก็บอกว่าร่างกายของสามีปกติดีทุกอย่าง ที่เขาแสดงอาการป่วยอาจจะเป็นเพราะปัญหาทางจิตบางประการ หลังจากรักษาภายในโรงพยาบาลอยู่นาน รักษาอย่างไรก็ไม่หาย ฝ่ายภรรยาจึงเริ่มเชื่อว่าสามีถูกคุณไสย-สิ่งเหนือธรรมชาติสาปแช่ง(ถูกหญิงม่ายบ้านฝั่งตรงข้ามสาปที่เคยมีเรื่องด้วยทำการสาปแช่งด้วยมนต์ดำ) ภรรยาจึงหันไปหาหมอผีและเทพโบราณในท้องถิ่นมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อสืบค้นวิธีการรักษาสามี….

****** หลังดูหนังเรื่องนี้จบ
การถ่ายภาพ มุมกล้อง เข้าขั้นสุดยอด มันเป็นอะไรที่สามารถดึงศักยภาพของวัตถุดิบที่มีในมือมาใช้ได้อย่างทรงพลังสูงสุด ขณะเดียวกันการผสมผสานเรื่องราวทางคตินิยมวิทยา, อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม, ฆราวาสนิยม, การผสมผสานของรากพหุกระบวนทัศน์, เทววิทยาแบบท้องถิ่นศึกษา, แนวนโยบายภูมิปุตรา, และเรื่องราวเหนือธรรมชาติที่เป็นภาพสะท้อนหมุนอยู่รอบๆตัวเรา ทำให้ภาคสรุปของหนังเรื่องนี้ไม่หลุดกรอบจากวิถีชีวิตจริงของผู้คนในพื้นที่แต่อย่างใด เป็นภาพสะท้อนที่ทรงพลัง แม้นซ่อนแอบอยู่ในเงามืด แต่เราก็ยังสามารถรับรู้ได้ว่ามันมีตัวตนอยู่ ณ สถานที่แห่งนั้นจริงๆ ไม่ต้องมองเห็น แต่ใช้การสัมผัสด้วยความรู้สึกและแง่มุมทางความเชื่อ

นอกจากนั้น ภายในหนังเรื่องนี้ยังนำเสนอ “รากของการผสมผสานความเชื่อทางลัทธิ และศาสนาอย่างเป็นจริง” เช่น การผสมผสานความเชื่อในท้องถิ่นระหว่าง ศาสนาพุทธนิกายมหายาน+ศานาอิสลาม+ศาสนาผี+ความเชื่อโบราณในท้องถิ่น อาทิ การเข้าทรงหนังตะลุง การบูชาเทพเทวดาในท้องถิ่นนิยม+ความเชื่ออื่นๆ ฯลฯ (ซึ่งแม้นผิดหลักศาสนา แต่ความเป็นจริงคือเป็นเฉกเช่นนั้นจริงๆ รู้ว่ามี แต่อย่าไปยุ่งไปแสดงความเห็นกับสิ่งเหล่านี้ดีที่สุด เพราะมันเป็นอยู่ของมันตามปกติวิถีถิ่นแล…. ) แอดมินผู้เคยลงพื้นที่วิจัยทั้งในไทยและมาเลเซีย เคยไปยืนรับชมการผสมผสานวัฒนธรรมรากความเชื่อระหว่าง พุทธ+อิสลาม-ฮินดู-ผี-อื่นๆ(คล้ายในหนังเรื่องนี้) หลังดูจบ เสพฯพหุวัฒนธรรมเหล่านั้นจนเอ่อล้นชุ่มฉ่ำชีวี ได้แต่ยืนยิ้มเงียบๆ อยู่ ณ มุมหนึ่งของพิธี….

*อนึ่ง แถว Gunung Keriang สถานที่ถ่ายทำหนังเรื่องนี้ในมาเลเซีย อยู่ใกล้กับชายแดนของประเทศไทยมากครับ (Gunung Keriang ติดสตูลกับสงขลา) ไม่แปลกที่ทีวีในหนังสมัยปี 1980-1987 จะใช้หนวดกุ้งรับสัญญาณทีวีของประเทศไทยได้ แอดมินเป็นคนหาดใหญ่สมัยนั้นยังเคยใช้หนวดกุ้ง+บูตเตอร์-ตัวขยายสัญญาณดึงช่อง TV3 ของมาเลเซียช่วงถ่ายฟุตบอล FA.Cup ของอังกฤษมาดูฟรีๆเลยครับ ไม่แปลกใจแต่ประการใดที่ในหนังเรื่องนี้ ทีวีของบ้านตัวเอกจึงมีเสียงพากย์เป็นภาษาไทยหลาย ทั้งเพลง-ละคร-รวมถึงเพลงชาติไทยในตอนเช้า(ที่เราได้ยินกันแบบยาวๆในฉากหนึ่ง)

หลังดูจบ แม้หนังไม่มีฉากที่แรงๆ-ดุดันแบบร่างทรงของไทย แต่ก็ถือว่า The Story of Southern Islet / 2020 (เล่าขานตำนาน “ร่างทรง” เวอร์ชั่นมาเลเซีย : อดีตรำลึกกับห้วงรัตติกาลสัมภเวสีแฝงร่าง) เป็นหนังที่ดีเยี่ยมเอามากๆในแง่ของกระบวนการถ่ายทอดภาพและเรื่องราวต่างๆในยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนผ่านในประเทศมาเลเซียได้ในระดับดีเยี่ยม หลังดูจบ คือ ชอบมากๆครับ ให้ 10 / 10 คะแนนเต็มไปเลย หนังสมบูรณ์ในตัวของมันเองอย่างไร้ที่ติ

#แอดมินซามาร่า 😊