****** เป็นหนังสยองขวัญยอดเยี่ยมคะแนน 10 / 10 แต่กลับมีคนรู้จักมันน้อยมาก สร้างจากเรื่องจริงในหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศฝรั่งเศส : Eight for Silver / 2021 (ปริศนาหลอนแห่งเฌโวด็อง) 😊

“เพราะเงินละลายในเตาหลอมฉันใด เจ้าก็จะละลายในเตาหลอมฉันนั้น”

Eight for Silver / 2021 หรือ The Cursed / 2021 เรื่องนี้เป็นหนังสยองขวัญจาก United States งานต้นฉบับพากย์ภาษา English และ Romanian หนังจัดอยู่ในประเภท Genres: Fantasy-Horror-Mystery ความยาว 1.51 ชั่วโมง ผลงานการกำกับของ Director(Writer): Sean Ellis

ภายใน Eight for Silver / 2021 หนังบอกเล่าเรื่องราวของชนบทฝรั่งเศสที่เมืองเฌโวด็อง(ปัจจุบันคือจังหวัดลอแซร์)ในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 19 กับเรื่องราวภัยคุกคามลึกลับที่เหนือธรรมชาติ ณ หมู่บ้านเล็กๆทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส มันเป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับการเข่นฆ่าพวกกลุ่มยิปซีของคนขาวผู้มีอำนาจในพื้นที่อย่างอำมหิต นำมาซึ่งคำสาปแช่งชั่วร้าย การระบาดของอหิวาตกโรค และฝูงสัตว์ร้ายในตำนานอันสุดสยดสยองพองขนหัว นามของมันคือ…. “สัตว์ผีแห่งเฌโวด็อง” กล่าวกันว่ามันเป็นสัตว์กินคนกลุ่มหนึ่ง ที่มีรูปลักษณ์อย่างสุนัขป่า มีเขี้ยวอันน่ากลัว มีเล็บอันกว้างยาว มีขนสีแดง และมีร่างกายอันส่งกลิ่นสาบเน่าเหม็นตลบอบอวลเหลือใจ เชื่อว่าผีหรือสัตว์ร้ายชนิดนี้ฆ่าเหยื่อโดยใช้คมเขี้ยวกัดฝังลงไปตรงบริเวณลำคอ จากนั้นมันก็จะกัดกระซวกกินซากเหยื่อของมันอย่างอร่อย เชื่อว่าใครที่โดนกัดแต่หนีออกมาได้ ไม่ช้าจะติดเชื้อและกลายร่างเป็นสัตว์ร้ายตัวดังกล่าวในไม่ช้า

ไม่นานนัก “จอห์น แมคไบรด์” (รับบทโดย Boyd Holbrook) นักพยาธิวิทยาหนุ่มได้รับคำสั่งจากทางการ จึงรีบออกเดินทางมาที่เมืองเฌโวด็องเพื่อตรวจสอบคดีสุดอันตรายดังกล่าวกับนายตำรวจในพื้นที่อีกหลายนาย โดยมีผู้นำชุมชนและพรานล่าสัตว์อีกราว 20 คน พร้อมสุนัขล่าเนื้อของพวกเขาอีก 30 ตัวออกปฏิบัติการณ์ล่าสัตว์ผีในครั้งนี้ร่วมกัน ขณะที่ชาวเมืองส่วนใหญ่ตามพากันไปหลบภัยอยู่ภายในโบสถ์เก่ากลางเมืองเพื่อยึดเป็นที่มั่นสุดท้ายสำหรับป้องกันภัยคุกคามของเหล่าฝูงสัตว์ผี ที่ออกล่าเหยื่อของมันอย่างสุดวิปริต….

****** หลังจากดูหนังเรื่องนี้จบ
The Cursed / 2021 : มองไปที่ใบปิด ใครออกแบบฟร๊ะ ใบปิดห่วย ไร้แรงดึงดูดใดใด
ดูตัว Trailer ของมัน อืมมม....ตัดต่อออกมาพอรับได้ แต่บางภาพที่ปรากฏในตัว Trailer กลับลดทอนความอยากดูลงอีกอักโข
หยิบมันมาดู เพราะเห็นคะเเนนใน IMDB สูงเอามากๆ(ตอนนั้นมันได้คะแนน 6.8 / 10 คะแนน) คิดในใจ ลองดูเล่นๆระหว่างที่หาหนังสยองขวัญชั้นดีมาทำยาไม่ได้ช่วงนี้ ถ้าสัก 40 นาทีไม่โอเค ค่อยกดปิดทิ้ง
จากนั้น....
อารมณ์หลังดูจบ หนังยอดเยี่ยม เอาไปเลย 10 / 10 คะเเนนเต็ม
การเล่าเรื่องดี ภาพสวยจับใจ ฉากโหด(โดยเฉพาะฉากฆ่าตรึงกางเขน)โหดร้ายทารุณกรรมและสมจริงสุด
มันมีส่วนของความเป็น Fantasy-Horror-Mystery
หนังสร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงในหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศฝรั่งเศส (ที่เคยเกิดขึ้นจริงๆ)
นอกจากนั้นหนังยังพูดถึงเรื่องราวของสัตว์ผี, มนุษย์กลายร่างเป็นสัตว์ร้ายแบบลัทธิ Animism(ลัทธิวิญญาณนิยม) เป็นการกลายร่างแบบสาย Totemism(Lycanthropy)ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ในระหว่าง ค.ศ. 1764 - 1767 กับตำนานสัตว์ร้ายกินคนแห่ง Gevaudan ที่คนฝรั่งเศสกลัวนักหนาในยุคนั้น แล้วก็หนังยังแฝงปรัชญาเกี่ยวกับเรื่องเงินบาปของผู้ทรยศต่อประเยซูอย่าง “ยูดาส อิสคาริโอท” (ยูดาสผู้ทรยศพระเจ้า) เป็นอาทิ สรุปว่าหนังดีเลยครับ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

#แอดมินซามาร่า 😊

(เพิ่มเติม)
พูดถึง “สัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็อง” ขอหยิบเอาข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าสัตว์ผีตัวนี้ใน “วิกิพีเดียสารานุกรมเสรี” ที่เขียนเอาไว้น่าสนใจยกมาให้อ่าน ดังนี้


(*ข้อมูลโดย : วิกิพีเดียสารานุกรมเสรี หัวข้อ “สัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็อง” / ลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2565)

สัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็อง : สัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็อง (ฝรั่งเศส: La Bête du Gévaudan; สัทอักษรสากล: [la bɜt dy ʒevɔdɑ̃]) เป็นชื่อเรียกสัตว์กินคนกลุ่มหนึ่ง รูปลักษณ์อย่างสุนัขป่า และว่ากันว่าคุกคามผู้คนในมณฑลเฌโวด็อง (ปัจจุบันคือ จังหวัดโลแซร์ (Lozère)) แถบเขามาร์เฌอรีด์ (Margeride) ทางตอนกลางของภาคใต้ประเทศฝรั่งเศส ในระหว่าง ค.ศ. 1764 ถึง 1767

ประจักษ์พยานจำนวนมากให้การตรงกันว่า สัตว์ร้ายเหล่านี้มีเขี้ยวอันน่ากลัว มีเล็บอันกว้างยาว มีขนสีแดง และมีร่างกายอันส่งกลิ่นเน่าเหม็นเหลือใจ สัตว์ทั้งนี้ฆ่าเหยื่อโดยใช้เขี้ยวขบแหวะลำคอ ส่วนจำนวนเหยื่อนั้นต่างกันไปตามแต่แหล่งข้อมูล เช่น นักวิชาการชื่อ เดอ โบฟอร์ (De Beaufort) ประเมินว่า สัตว์ร้ายฝูงนี้โจมตีผู้คนถึงสองร้อยสิบครั้ง ฆ่าคนไปหนึ่งร้อยสิบสามคน และทำร้ายผู้คนไปอีกสี่สิบเก้าคน โดยในจำนวนผู้ตายหรือถูกทำร้ายนี้ เก้าสิบแปดคนถูกกินร่างกายหรืออวัยวะบางส่วน รัฐบาลจึงจัดกองกำลัง ประกอบทั้งฝ่ายทหารฝ่ายพลเรือน ข้าราชการชั้นสูงชั้นรอง เชื้อพระวงศ์ และทรัพยากรทรงแสนยานุภาพจำนวนมาก ออกล่าสัตว์ดังกล่าว เรื่องราวของสัตว์เหล่านี้ต่อมากลายเป็นหัวข้อยอดนิยมในวิชาการสัตว์ลึกลับ (cryptozoology)

สัตว์ร้ายตัวแรก : การโจมตีครั้งแรกที่ทำให้ผู้คนพบเห็นสัตว์ร้ายเหล่านี้ มีขึ้นในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 1764 โดยหญิงชาวเมืองล็องฌ็อช (Langogne) คนหนึ่ง เผชิญสัตว์ร้ายกายมหึมาตัวหนึ่ง รูปร่างอย่างสุนัขป่า ที่โผล่จากแมกไม้ และเข้าจู่โจมเธอโดยตรง แต่เมื่อฝูงวัวในนาแล่นตรงเข้ามา สัตว์ร้ายนั้นก็ผละหนีไป

วันที่ 30 มิถุนายน ฌัน บูเลต์ (Jeanne Boulet) เด็กหญิงวัยสิบสี่ปี กลายเป็นเหยื่ออย่างเป็นทางการรายแรกของสัตว์ร้ายนี้ เธอถูกฆ่าใกล้หมู่บ้านเลซูบัก (Les Hubacs) ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเมืองล็องฌ็อช

ดูเหมือนว่าสัตว์ร้ายฝูงดังกล่าวมุ่งทำร้ายคนยิ่งกว่าปศุสัตว์ เพราะหลายคราที่พวกมันโจมตีคน ทั้งๆ ที่มีสัตว์มากมายอยู่ถิ่นแถวใกล้เคียง

ครั้นวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1765 ฌัก ปอร์เตอเฟ (Jacques Portefaix) กับเพื่อนอีกหกคน ซึ่งเป็นหญิงสองคน ถูกสัตว์ร้ายนั้นโจมตี พวกเขาขับมันไปโดยรวมตัวกันไว้ไม่ห่าง ความทราบถึงพระเนตรพระกรรณพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 จึงพระราชทานเงินให้ปอร์เตอเฟจำนวนสามร้อยลีฟวร์ และอีกสามร้อยลีฟวร์ให้ไปแบ่งกันในบรรดาหกคนที่เหลือ พระองค์ยังโปรดอุปถัมภ์การศึกษาเล่าเรียนของปอร์เตอเฟด้วย เมื่อสนพระทัยในเรื่องสัตว์นี้แล้ว พระเจ้าหลุยส์ที่สิบห้าก็โปรดให้นักล่าสุนัขป่ามืออาชีพ ได้แก่ ฌ็อง ชาลส์ มาร์ก อ็องตวน โวแมสล์ ด็องเนอวาล (Jean Charles Marc Antoine Vaumesle d'Enneval) กับลูก คือ ฌ็อง-ฟร็องซัวส์ ชาลส์ มาร์ก อ็องตวน โวแมสล์ ด็องเนอวาล (Jean-François Charles Marc Antoine Vaumesle d'Enneval) ไปจัดการสัตว์พวกนี้ สองพ่อลูกไปถึงเมืองแกลร์มงต์-แฟร์ร็องด์ (Clermont-Ferrand) เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1765 โดยพาสุนัขบลัดฮาวด์ที่ได้รับการฝึกให้ล่าสุนัขป่าไปด้วยจำนวนหนึ่ง พวกเขาใช้เวลาหกเดือนฆ่าสุนัขป่าไปเป็นอันมากด้วยเชื่อว่าเป็นสัตว์ร้ายที่กล่าวขวัญ อย่างไรก็ดี การโจมตียังมีอยู่สืบไป รัฐบาลจึงให้ ฟร็องซัวส์ อ็องตวน (François Antoine) (ซึ่งมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็น อ็องตวน เดอ โบแตร์น (Antoine de Beauterne)) พร้อมกองพลอาวุธครบครัน ออกไปแทนในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1765 ฟร็องซัวส์ อ็องตวนผู้นี้เป็นเจ้าพนักงานรักษาพระแสงปืนยาวฮาร์เกอบุส (harquebus) เขาเดินทางถึงเมืองเลอมาลซีเยอ (Le Malzieu) เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน

วันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 1765 อ็องตวนเผชิญหน้ากับสุนัขป่ากายเขื่องสีเทา สูงแปดสิบเซนติเมตร ยาวหนึ่งเมตรกับอีกเจ็ดเซนติเมตร และหนักหกสิบกิโลกรัม บริเวณป่าใกล้เคียงกับวัดแห่งชาส (Abbaye des Chazes) เขาได้สังหารมัน และสุนัขป่าตัวนั้นต่อมาได้นามว่า “สุนัขป่าแห่งชาส” (Le Loup de Chazes) อ็องตวนแถลงอย่างเป็นทางการว่า “ด้วยรายงานอันเราได้ลงลายมือชื่อแล้วฉบับนี้ เราขอประกาศว่า เรามิเคยประสบสุนัขป่ากายใหญ่โตถึงเพียงนี้มาก่อน นี้จึงเป็นเหตุผลที่เราเชื่อว่า มันเป็นอ้ายเดรัจฉานอันสยองขวัญยิ่งนักซึ่งที่ผ่านมาได้สร้างความเสียหายเป็นอันมากแก่ชาวเรา” เหยื่อที่รอดจากการโจมตีก็เชื่อว่าสุนัขป่าตัวนี้คือสัตว์ร้ายที่ร่ำลือกัน หลังจากได้เห็นแผลเป็นบนลำตัวของมัน อันเกิดจากการที่พวกเขาป้องกันตนเองจากมัน ต่อมา สุนัขป่าตัวนี้ถูกชำแหละแล้วเข้ากระบวนการคงสภาพไว้ ก่อนส่งไปพระราชวังแวร์ซายส์ ที่ซึ่งราชสำนักเชิดชูว่าอ็องตวนเป็นวีรบุรุษ และพระมหากษัตริย์ก็พระราชทานเงินรางวัลจำนวนมากพร้อมบรรดาศักดิ์หลากหลายให้แก่เขา

สัตว์ร้ายตัวที่สอง : ทว่า วันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 1765 มีสัตว์ร้ายอีกตัวปรากฏที่ตำบลลาแบสแซร์แซงต์มารี (la Besseyre Saint Mary) แล้วทำร้ายเด็กไปสองคน หลังจากวันนั้นก็มีผู้คนถูกทำร้ายล้มตายอีกเป็นอันมาก

ฌ็อง ชัสเต็ล (Jean Chastel) นักล่าสัตว์ท้องถิ่น จึงออกตามฆ่าสัตว์ร้ายตัวที่สองนี้ เขาพบมันแถวซ็อญโดฟวร์ (Sogne d'Auvers) และฆ่ามันเสียเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 1767 เจ้าพนักงานท้องถิ่นได้ชันสูตรศพสัตว์ดังกล่าว พวกเขาผ่าท้องมัน แล้วพบซากศพมนุษย์เป็นอันมาก เมื่อสัตว์ตัวที่สองตายแล้วก็ไม่ปรากฏเหตุร้ายอีก

นักเขียนรุ่นหลัง เช่น เชอวาลเลย์ (Chevalley) เอาไปแต่งเป็นนิยายว่า ชัสเต็ลฆ่ามันโดยใช้กระสุนเงินปลุกเสกที่ผลิตเอง และมีเรื่องเล่าต่อ ๆ กันมาว่า ชาสเต็ลฆ่าสัตว์ร้ายตัวที่สองขณะที่นั่งลงอ่านพระคัมภีร์แล้วสังวัธยายบทสวดพร้อมกับนักล่าคนอื่นๆ บัดดล ปีศาจร้ายก็โผล่มาให้เห็น และจ้องมาที่ชาลเต็ล ชาลเต็ลผู้ท่องบทสวดเสร็จพอดีก็ยิงมันถึงแก่ความตาย เรื่องนี้มิใช่วิสัยสัตว์ดุร้ายทั่วไปที่จะจู่โจมทันทีและไม่จ้องดูเหยื่อเสียก่อน

รูปลักษณ์สัตว์ร้าย : ในช่วงที่สัตว์ร้ายออกล่านั้น มีผู้คาดเดารูปลักษณ์ของมันไปต่างๆ นานา ตั้งแต่ว่ามันเป็นมนุษย์หมาป่า จนถึงเป็นสัตว์ที่ถูกพระผู้เป็นเจ้าสาปส่ง เจย์ เอ็ม สมิธ (Jay M. Smith) เขียนหนังสือ “อสุรกายแห่งเฌโวด็อง” (“Monsters of the Gévaudan”) ว่า ความตายที่เกิดทั้งหลายนั้นชะรอยจะเป็นผลงานของสัตว์เดรัจฉานจำพวกสุนัขป่าจำนวนหนึ่งหรือเป็นฝูง ขณะที่ริชาร์ด เอช. ธอมป์สัน (Richard H. Thompson) เขียนหนังสือ “การล่าสุนัขป่าในฝรั่งเศสรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่สิบห้า: สัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็อง” ว่า เมื่อพิเคราะห์ลักษณะการโจมตีของสัตว์ดุร้ายหลายๆ ประเภทแล้ว ก็น่าเชื่อว่าสัตว์ร้ายที่ก่อเหตุนั้นเป็นสุนัขป่า

แต่ก็มีผู้ร่ำลือว่า น่าจะเป็นสุนัขบ้าน หรือสัตว์ข้ามพันธุ์ระหว่างสุนัขป่ากับสุนัขบ้าน อ้างอิงขนาดร่างกายและสีสันของสัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็อง มิเชล ลูอี (Michel Louis) นักธรรมชาติวิทยาผู้เขียนหนังสือ “สัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็อง: หมาป่าผิดตรงไหน” (“La bête du Gévaudan: L'innocence des loups”) สนับสนุนข้อนี้ ลูอีว่า ฌ็อง ชาสเต็ล เคยกล่าวว่าเห็นสุนัขบ้านพันธุ์มาสตีฟ (mastiff) ตัวใหญ่ สีแดง บ่อยๆ ลูอีเชื่อว่าสุนัขบ้านพันธุ์นี้คือโคตรเหง้าของสัตว์ร้ายที่ก่อเหตุ เขากล่าวด้วยว่า ที่สัตว์ร้ายนี้ทนกระสุน ก็อาจเป็นเพราะมันสวมหนังสัตว์ เช่น หนังงูเหลือม เป็นเกราะ และที่มันสวมหนังสัตว์เช่นนี้ อาจเป็นคำอธิบายสำหรับสีกายอันประหลาดของมัน เขาไม่เชื่อว่าหมาในจะเป็นสัตว์ร้ายในเหตุการณ์ เพราะการชันสูตรสัตว์ร้ายที่ถูกฆ่าพบว่ามีเขี้ยวสี่สิบสองซี่ แต่หมาในมีเพียงสามสิบสี่ซี่

นักวิทยาการสัตว์ลึกลับบางคนว่า สัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็องอาจเป็นเผ่าพันธุ์วาฬเมโซไนคิด (Mesonychid) ที่เหลือรอดมาก็ได้ เพราะประจักษ์พยานบางคนว่ามันมีกีบ แทนที่จะมีอุ้งเล็บ และมันก็ใหญ่โตกว่าสุนัขป่าตามธรรมชาติด้วย

ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2009 ช่องฮิสตรีแชนเนล (History Channel) ออกอากาศสารคดี "มนุษย์หมาป่าตัวจริง" ("The Real Wolfman") โดยโต้แย้งว่า สัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็องเป็นหมาในจากเอเชียพันธุ์หนึ่งที่บัดนี้สูญพันธุ์ไปแล้วในยุโรป
(*ข้อมูลโดย : วิกิพีเดียสารานุกรมเสรี หัวข้อ “สัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็อง” / ลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2565)