****** คือหนังสยองขวัญที่ได้แรงบันดาลใจอย่างสูงสุดมาจากเหตุการณ์จริงในหน้าประวัติศาสตร์ที่ชื่อ “The Village That Disappeared” หรือปริศนาการหายตัวของผู้คนมากกว่า 2,000 คนในย่านทะเลสาบ Ankikuni ทางตอนเหนือของประเทศแคนาดา : Phantoms / 1998 😊

นับเวลาย้อนไปที่ราว ค.ศ.1998 หรือปี พ.ศ.2541 แอดมินกำลังทำอะไรอยู่นะ?
รีบตื่นแต่เช้า อาบน้ำแต่งตัว นั่งรถบัสโพธิ์ทองคันสีเขียว ขึ้นจากสถานีขนส่งหาดใหญ่ปลายทางไปลงอำเภอเมืองสงขลา เรียนในมหาวิทยาลัยปี 2 วาดๆเขียนๆลงสีน้ำมันลงบนเฟรมผ้าใบแคนวาสอย่างมีความสุข สมัยนั้นยังไม่มี Internet ให้ใช้กันอย่างแพร่หลายเหมือนยุคปัจจุบันหรอกนะ เวลาว่างส่วนใหญ่ก็หมดไปกับการเข้าห้องสมุด(ไม่ได้เข้าไปอ่านหนังสือหรอก เข้าไปนอนตากแอร์ 555+ ) หรือไม่ก็ไปเดินเที่ยวห้างฯ เที่ยวในตลาดนัด หาเทปเพลงมาฟังตามสมัยนิยม ดูทีวีรายการฮิต หรือนานๆครั้งเข้าโรงดูหนังสยองขวัญบ้างตามแต่กำลังทรัพย์จะเอื้ออำนวย

ทุกเช้า นั่งรถโพธิ์ทองผ่านป้าย-มุมโฆษณาโปรแกรมหนังที่รอฉายในโรงฯแถวหาดใหญ่ใน สะดุดป้ายโฆษณาอยู่ตัวที่กำลังโฆษณาหนังสยองขวัญเรื่อง Phantoms / 1998 สมัยนั้นใช้ชื่อภาคภาษาไทยว่า “แฟนทอมส์ อสูรกาย…ดูดล้างเมือง” เคยเห็นตัวอย่างหนังในทีวีอยู่พักใหญ่ๆ Trailer ของมันน่าดูชมมากในยุคสมัยนั้น แต่เพราะไม่ค่อยว่าง เลยไม่ได้เข้าไปดูหนังเรื่องนี้ในโรงฯแต่ประการใด รอจนหนังออกโรงฯ รอสอยเช่าดูที่ร้านซึทาญ่า สาขาตรงข้ามห้างไดอาน่าหาดใหญ่(ปัจจุบันปิดตัวไปล่ะ)

เคยได้ยินเหตุการณ์จริงในหน้าประวัติศาสตร์ที่ชื่อ “The Village That Disappeared” หรือปริศนาการหายตัวของผู้คนมากกว่า 2,000 คนในย่านทะเลสาบ Ankikuni ทางตอนเหนือของประเทศแคนาดากันบ้างไหม? อยากจะบอกว่าหนังเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจอย่างสูงสุดมาจากภาพเหตุการณ์ในครั้งนั้นล่ะ

ซึ่งในเรื่องนี้เว็บไซต์ readsabay คำสืบค้น “The Village That Disappeared ปริศนาการหายไปของคนกว่า 2,000 คน!” ได้บรรยายเหตุการณ์ดังกล่าวเอาไว้ว่า….

เรื่องราวของ The Village That Disappeared ถือว่าเป็นเรื่องราวการหายตัวไปแบบเป็นปริศนาที่ลึกลับที่สุด เพราะการหายสาบสูญของคนในหมู่บ้านนี้มีจำนวนมากถึง 2,000 กว่าคนเลยทีเดียว ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และเด็กๆ ต่างก็หายตัวไปอย่างปริศนา

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 1930 เมื่อนายพรานที่ชื่อว่า Labelle ได้นำขนสัตว์มาขายให้ผู้คนในหมู่บ้านชาวเอสกิโมที่ตั้งอยู่ข้างทะเลสาบ Ankikuni แคนาดาตอนเหนือ ซึ่งนายพรานคนนี้คุ้นเคยกับคนในหมู่บ้านเป็นอย่างดี ทว่าในครั้งนี้เมื่อเขามาถึงหมู่บ้านเขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าหมู่บ้านดังกล่าวกลายเป็นหมู่บ้านรกร้าง ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่เลย และเป็นที่น่าตกใจว่า เมื่อเข้าไปสำรวจกระท่อมปรากฏว่าเคยมีหลักฐานว่ามีคนอาศัยอยู่ก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน บางกระท่อมมีไฟกำลังเผาไหม้บนหม้อที่กำลังตุ๋นเนื้อจนดำ

นายพรานคนนี้ตกใจมากจึงได้แจ้งทางการให้มาสืบสวนเรื่องนี้ แต่เมื่อค้นหมู่บ้านจนละเอียดแล้วกลับไม่พบร่องรอยหรือหลักฐานอะไรทั้งสิ้น ไม่มีแม้แต่ซากศพ หรือรอยเท้า หลักฐานที่พอเป็นไปได้คือ ซากศพสุนัขเลี้ยงที่ถูกอดอาหารจนตาย และถูกฝังใต้พื้นหิมะ 15 ฟุตเท่านั้น ทำให้เชื่อว่าพวกเขาได้สละหมู่บ้านอย่างเร่งด่วนจนลืมแม้กระทั่งสุนัข

เมื่อได้สำรวจสุสานบรรพบุรุษของหมู่บ้านเอสกิโมปรากฏว่ามันว่างเปล่า เป็นเรื่องที่น่าพิศวงไม่น้อยที่จู่ๆ คนเป็นพันคนจะหายไปจากหมู่บ้านอย่างไร้ร่องรอย โดยทฤษฏีที่น่าเชื่อที่สุดก็คือ พวกเขาถูกมนุษย์ต่างดาวลักพาตัวไป อย่างไรก็ตามปริศนาการหายสาปสูญของผู้คนในหมู่บ้านแห่งนี้ยังเป็นเรื่องที่หาคำตอบไม่ได้ (ข้อมูลโดย : เว็บไซต์ readsabay คำสืบค้น “The Village That Disappeared ปริศนาการหายไปของคนกว่า 2,000 คน!” )

ว่ากันว่าเหตุการณ์ “The Village That Disappeared” ที่เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ.1930 นี้เองกลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้ Director: Joe Chappelle และมือเขียนบทอย่าง (Writer): Dean R. Koontz หยิบเอามาสร้างเป็นหนังสยองขวัญชั้นดีอย่าง Phantoms / 1998 ในห้วงเวลาต่อมา หนึ่งคือเพื่อเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับภาพเหตุการณ์ดังกล่าวในมุมมองของผู้กำกับ และสองคือนำพาคุณผู้ชมเข้าสู่ความสยดสยองพองขนหัวอย่างชนิดไม่เคยปรากฏมาก่อนในชีวิต

Phantoms / 1998 (แฟนทอมส์ อสูรกาย…ดูดล้างเมือง) หนังสยองขวัญเรต R สาย Horror-Sci-Fi-Thriller ความยาว 1.36 ชั่วโมง งานร่วมทุนสร้างจาก Countries of origin: United States-Japan โดยหนังใช้อีกชื่อหนึ่งว่า Dean Koontz's Phantoms / 1998

ใน Phantoms / 1998 หนังเล่าถึงเรื่องราวภายในเมือง Snowfield อันเงียบสงบในรัฐโคโลราโด-อเมริกา กับสองพี่น้องสาวสวยที่กำลังขับขี่รถยนต์ส่วนตัวเข้ามาทำงานและพักผ่อนที่เมืองแห่งนี้ตามปกติ พี่สาวเป็นเจ้าของคลีนิกเล็กๆเริ่มประหลาดใจที่ผู้คนภายในเมืองกว่า 400 คนกลับหายสาบสูญอย่างไร้ร่องรอยเพียงเวลาชั่วข้ามคืน นางจึงชวนน้องสาวออกเดินสำรวจเมืองจนไปเจอเข้ากับนายอำเภอและทีมที่กำลังออกตามหาชาวเมืองที่หายสาบสูญอยู่เช่นเดียวกัน….

หลังดูจบ : หนังดีเลยนะ แม้นจะไม่ดีที่สุดกับการเฉลยถึงต้นตอการหายสาบสูญของผู้คนทั้งเมืองภายในห้วงเวลาเพียงค่ำคืนเดียว แต่ก็นะยุคสมัยปี 2541 (เกือบ 25 ปีก่อน) กับเทคนิคการถ่ายทำระดับนี้ ถือว่ายอดเยี่ยมเอามากๆแล้วล่ะ ชอบบรรยากาศที่เคว้ง ว่างเปล่าของเมืองเล็กๆที่ไร้ผู้คน มันดูวังเวงและเย็นยะเยือกพิกล ดูกี่ทีก็รู้สึกว่าชอบ แม้นเวลาผ่านมาเนินนานมากแล้ว

ให้ 8.5 / 10 คะแนนครับ (ชอบเป็นการส่วนตัวจริงๆ คะแนนเลยโดดขึ้นบน / อย่าว่ากันนะครับ 555+)
นักดูหนังสยองขวัญรุ่นใหม่ๆ ท่านไหนยังไม่เคยดู แนะนำเลยครับเรื่องนี้ หนังในดวงใจของแอดมินอีกเรื่อง 25 ปีที่แล้วชอบยังไง ณ วันนี้ก็ยังเหมือนเดิมจ๊ะ

#แอดมินซามาร่า 😊