****** ชวนคุยหลังจากดู Guillermo del Toro's Cabinet of Curiosities (TV Series 2022) จบ งุงิ 😊

เป็นที่รู้ๆกันว่าแอดมินเกลียดการดูซีรี่ย์มากขนาดไหน หนึ่งคือเพราะไม่ค่อยมีเวลาให้ตามติด ดูอะไรที่มันลากยาวมันชวนเบื่อที่สุด และสองเป็นที่รู้ๆกันว่าคุณภาพของซีรี่ย์สยองขวัญในยุคก่อนๆสู้หนังยาวชนโรงไม่ได้ เลยเป็นเหตุและปัจจัยหลักตัวเป้งๆให้แอดมินจะไม่ดูงานซีรี่ย์สยองขวัญอย่างเด็ดขาด หากวันหนึ่งงานซีรี่ย์สยองขสัญชุดนี้ได้คนดูแลที่ชื่อ Guillermo del Toro ผู้กำกับมากประสบการณ์และเคยสร้างความประทับใจจากหนังสยองขวัญเรื่อง Scary Stories to Tell in the Dark / 2019 ซึ่งแอดมินแอบชอบเอามากๆโดยเฉพาะการออกเเบบตัวประหลาดต่างๆ อาทิ อิผีอ้วนหน้าหลอนเอ๋อๆจอมกินเด็ก (ซึ่งแอดมินว่ามันน่ากลัวมากๆ)

โอเค พอชื่อของ Guillermo del Toro การันตีซะขนาดนี้ บวกกับพอมีเวลาว่างนิดหน่อยในเเต่ละวัน แอดมินจึงใข้เวลา 8 วัน ดูมันวันละ 1 ตอน(เฉลี่ยหนังยาวตอนละ 40-65 นาที) จนจบ ครบทุกตอน แล้วจึงขอเอามาบอกเล่าถึง ความชอบ-ไม่ชอบ และคะเเนนที่เพจเราให้ไว้ เป็นดังนี้....

( 1. ) Lot 36 : เรื่องราวของอดีตทหารผ่านศึกที่ยึดอาชีพประมูลสิ่งของภายในโกดังเก่าขายประทังชีวิต กับตำนานของห้องปิดตายหมายเลข 36 ที่เพิ่งประมูลสำเร็จ ////// ตอนนี้สนุก ตื่นเต้นการผูกเรื่อง เร้าอารมณ์ความสนใจ มีพลังให้ติดตามเป็นอย่างยิ่ง ให้ 9.5 / 10 คะเเนน ชอบมากกกก

( 2. ) Graveyard Rats : เกี่ยวกับชายสูงวัยที่หากินด้วยการขุดหลุมศพ และกองทัพหนูปีศาจที่คอยมาเเย่งชิงทรัพย์สินของมีค่าจากศพ ศัตรูของชายสูงวัยนัานแหล่ะ ////// ภาพสวย งานเอฟเฟคดี เเต่โดยภาพรวม น่าเบื่อ ให้ 7 / 10 คะเเนน ไม่ชอบ

( 3. ) The Autopsy : เกี่ยวกับชายลึกลับ ปริศนาการตายหมู่ของพนักงานเหมืองนับสิบคน และการผ่าพิสูจน์ศพที่ตายโดยพบว่าเลือดภายในกายของพนักงานเหมืองเหล่านั้น ทุกคน ถูกสูบออกไปจนหมดร่าง ////// เป็นตอนที่มีพลังแรงดึงดูดสูงส่งเอามากๆ ฉากผ่าพิสูจน์ศพในโกดังร้างย่านชานเมืองน่ากลัว และเป็นตอนที่จบได้อย่างโคตรจะสะใจในห้วงอารมณ์ ให้ 9.5 / 10 คะเเนน ชอบมากกกก

( 4. ) The Outside : สาวแบงค์หน้าตาบ้านนอก เอ๋อๆ ที่นางพยายามหาวิธีเข้าแก๊งค์กลุ่มสาวแบงค์ไฮโซ กับครีมประหลาด ที่ยิ่งทาผิวก็ยิ่งหลอน ////// ก็พอดูได้เพลินๆ ไม่ดี แต่ก็ไม่ถึงกับแย่นะ ให้ 7.5 / 10 คะเเนน เฉยๆ

( 5. ) Pickman's Model : กลุ่มนักเรียนศิลปะ และเพื่อนจิตกรที่หมกมุ่นกับภาพวาดของแม่มดและองค์ซาตาน ที่ใครก็ตามได้ชมภาพชุดดังกล่าวเข้าไปจะต้องฆ่าตัวตายทุกคน ////// เหมือนจะดี เเต่หากใครเคยดู Master of Horror : ตอน Cigarette Burns ซึ่งมีส่วนคล้ายกันในบริบทโดยองค์รวม จะพบว่า Pickman's Mode ยังห่างชั้นจากงานขึ้นหิ้งอย่าง Cigarette Burns อีกหลายขุม และไร้ซึ่งพลัง แม้นฉากจบจะพยายามใส่จุดพีกสุดสะเทือนอารมณ์คนดูลงไป แต่มันก็ดันไปผลิตซ้ำกับงานอย่าง My European Dream / 2013 ของผู้กำกับ Rafael Cherkaski เข้าซะงั้น ให้ 7 / 10 คะเเนน เฉยๆ

( 6. ) Dreams in the Witch House : น้องชายฝาแฝดที่พยายามตามหาพี่สาวฝาแฝดของตนเอง ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกดูดเข้าไปในดินแดนแห่งป่าหลังความตาย กับคำโปรย "ฉากสุดท้าย จบอย่างมีความสุข" ////// แค่เปิดฉากมาหนังก็เล่นกับคำโปรยซะล่ะ ใช่....ฉากสุดท้าย จบอย่างมีความสุข แต่ความสุขที่ว่านั่น....ของใคร???? (555+) ตอนนี้ดี มีเรื่องของการข้ามดินแดนแบบพ่อมดแม่มดใส่เข้าไปด้วย แม่มดในเรื่องก็ออกเเบบมาได้น่ากลัวดี มีความน่าติดตามจนจบเรื่อง ให้ 9.5 / 10 คะเเนน ชอบจ๊ะ

( 7. ) The Viewing : คนกลุ่มหนึ่ง กับก้อนหินประหลาด และการสนทนาเชิงปรัชญา ////// เป็นตอนที่น่าเบื่อที่สุด ห่วย และไร้ซึ่งแรงดึงดูดใดใดทั้งสิ้น เป็นหนังเพียงตอนเดียวที่แอดมินดูไม่จบ ต้องอาศัยการกรอหนังไปเรื่อยๆเพื่อดูฉากจบของมัน เป็นตอนที่เเย่ที่สุดในซีรี่ย์นี้แล้วล่ะ ให้ 2 / 10 คะเเนน ควรค่าแก่การเอางานต้นฉบับไปเผาทิ้งมากๆ

( 8. ) The Murmuring : คู่สามีภรรยานักปักษาวิทยา กับกิจกรรมส่องนกหายาก บ้านประหลาดที่มีประวัติดำมืด และการคลี่คลายปม ////// การวางโครงเรื่อง อารมณ์ของนักแสดง สถานที่ถ่ายทำ ผสานกันเเล้วน่าขนลุก หนังสร้างบรรยากาศความไม่น่าไว้วางใจในสถานการณ์ต่างๆ ในทุกสถานที่ ได้อย่างดีเยี่ยม ฉากจบ เป็นอะไรที่แสนจะอบอุ่น และลงตัว ให้ 9.5 / 10 คะเเนน จบแบบยิ้มและเข้าใจ อบอุ่นดี ชอบๆ

#แอดมินซามาร่า 😊